'เรืองไกร' จ่อฟาด 'ยุทธพงศ์' คืน ให้ทีมกฎหมายทำข้อมูล ฟ้องกลับ ยันเงินทุกบาทมาถูกต้อง

        นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 แถลงต่อกรณีของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเเพื่อไทย ที่ยื่นสอบตนฐานมีพฤติกรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 นั้น เพราะครอบครองรถหรูป้ายแดง ตนยินดีให้ตรวจสอบ และพร้อมจะชี้แจงแต่การยื่นตรวจสอบดังกล่าว อย่างไรก็ดีที่มีการระบุว่าตนถือเงินสด จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อซื้อรถเบนซ์นั้น คือการคาดเดา และไม่ตรงกับความเป็นจริง และตนให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบเพื่อดำเนินการ เพราะการกล่าวหาอันเป็นเท็จ ถือว่าผิดประมวลกฎหมายอาญา , พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย ป.ป.ช. และกฎหมายพรรคการเมือง ที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิทางการเมือง

         “ผมไม่เคยถือเงินสด 5 ล้านบาท ไปซื้อรถเบนซ์ แต่เป็นการนำแคชเชียร์เช็คไปจ่าย โดยเช็คลงวันที่ 30 มิถุนายน ทุกอย่างมีพยานรู้เห็นหมด การร้องให้ตรวจสอบถือว่าเป็นสิทธิ แต่ถ้าข้อความหรือข้อร้องเรียนนั้นเป็นเท็จ ก็ต้องถูกดำเนินการ ซึ่งผมจะเบิกเงิน 10 ล้านบาท สามารถเบิกได้ แต่ต้องกรอกแบบฟอร์มของปปง.  และเอกสารใบคำขอซื้อก็มี เรื่องนี้มีคนที่อวดรู้ สู่รู้ ไปจินตนาการบรรเจิดเลิศเลอ หาว่าผมย้ายค่าย ถ้าเช่นนั้นผมอยู่บางพรรคมา 6 – 7 ปี คงได้อะไรมาเยอะแล้ว จึงขอยืนยันว่า ทุกบาททุกสลึงถูกต้องหมด" นายเรืองไกร กล่าว

         นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่าการยื่นตรวจสอบตนดังกล่าวอาจทำให้มีปัญหาต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2565 วาระสองและวาระสามได้  เพราะหากเกิดกรณีตั้งกรรมการสอบ เท่ากับกมธ.งบประมาณที่ไม่ได้ทักท้วงต้องร่วมรับผิดชอบด้วย และหากการพิจารณางบประมาณ ไม่แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 สิงหาคม ซึ่งครบกำหนด 105 วัน จะทำให้การทำงานของอนุกมธ.​ไม่มีผลต่อการปรับลดและต้องกลับไปใช้เนื้อหาที่รัฐบาลเสนอ

        นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า ในเดือนสิงหาคม ตนจะอายุครบ 60 ปี ครอบครัวและตนต้องการให้รางวัลชีวิต จึงซื้อรถไว้สำหรับครรอบครัว แต่สิ่งที่ร้องตนแล้ว ไม่สามารถถอนได้ ตนจึงให้ฝ่ายกฎหมายเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมดแล้ว และที่นัดผมไว้วันที่ 5 สิงหาคม ตนสะดวกและพร้อมไปตามนัด ส่วนที่ตนโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ว่ามีผู้ใหญ่ใจดีซื้อให้ ตอนแรกหวังดักปลาซิว ปลาสร้อย แต่กลับได้ปลาวาฬตัวใหญ่.

      ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าก่อนหน้าที่นายเรืองไกรจะแถลงนายยุทธพงศ์ ได้ยื่นให้นายชวน หลีกภัยประธานสภาฯตรวจสอบพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ที่ปรึกษาประธานสภาฯ.