กทม. 'ฉีดวัคซีนโควิด' เชิงรุก พระสงฆ์ สัปเหร่อ และบุคลากรวัดฝั่งธน

กทม. 'ฉีดวัคซีนโควิด' เชิงรุก พระสงฆ์ สัปเหร่อ และบุคลากรวัดฝั่งธน

กทม. ร่วมกับ รพ.ราชพิพัฒน์ 'ฉีดวัคซีนโควิด' เชิงรุกพระสงฆ์ สัปเหร่อ มัคนายก แม่ครัว และบุคลากรวัดในพื้นที่ฝั่งธนเหนือ และ ฝั่งธนใต้ พระภิกษุสงฆ์ 577 รูป และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง 309 คน รวมผู้เข้ารับบริการ 886 คน

วันนี้ (30 ก.ค.64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการวัคซีนแก่พระภิกษุสงฆ์และเจ้าหน้าที่ผู้จัดการศพ ในวัดพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ โดยมี พระเทพประสิทธิมนต์ (โกศล มหาวีโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ รพ.ราชพิพัฒน์ สำนักงานเขตบางกอกน้อย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ วัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตบางกอกน้อย ร่วมกับ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ ให้บริการ ฉีดวัคซีนโควิด เชิงรุกแก่พระภิกษุสงฆ์ เจ้าหน้าที่ผู้จัดการศพ(สัปเหร่อ) มัคนายก ตลอดจนบุคลากรของวัดในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 8 เขต จำนวน 152 แห่ง และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ 6 เขต จำนวน 69 แห่ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 221 แห่ง สำหรับในวันนี้มีพระภิกษุสงฆ์เข้ารับการฉีดวัคซีน 577 รูป และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้ารับการฉีดวัคซีน จำนวน 309 คน รวมผู้เข้ารับบริการ 886 คน

162762082343

  

  • อีก 35 เขต กทม. ให้บริการ 1 ส.ค. 64 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ที่ผ่านมาวัดศรีสุดารามวรวิหาร ได้ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่เพื่อให้กรุงเทพมหานครได้ใช้ในการจัดตั้งเป็น รพ.สนามและศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความครบวงจร และมีประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก สำหรับในวันนี้กรุงเทพมหานครได้จัดบริการฉีดวัคซีนเพื่อให้บริการแก่พระสงฆ์ เณร แม่ครัว เจ้าหน้าที่วัด ซึ่งเข้าเกณฑ์การรับวัคซีน คือมีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงให้บริการพระสงฆ์จากทุกนิกาย และเจ้าหน้าที่วัดในพื้นที่ฝั่งธนบุรีทั้งหมด

162762082231

ในส่วนของ พระสงฆ์ และเจ้าหน้าที่วัดในพื้นที่อื่นอีก 35 เขต จะให้บริการในวันที่ 1 ส.ค. ณ จุดฉีดวัคซีนนอกรพ. หน่วยความร่วมมือกรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย SCG บางซื่อ โดยวัดที่ประสงค์เข้ารับวัคซีนสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมความพร้อมและมาตรการต่างๆ ให้ถูกต้องและเป็นไปตามสุขลักษณะต่อไป

  • ข้อปฏิบัติ จัดการศพผู้เสียชีวิตจากโควิด

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย ได้ออกข้อปฏิบัติในการจัดการศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับผู้ปฏิบัติงานฌาปนสถาน เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติและผู้เกี่ยวข้องสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคออกไปสู่ภายนอก โดยศพผู้เสียชีวิตที่จะรับมาประกอบพิธี ณ ฌาปนสถาน จำเป็นต้องผ่านการบรรจุศพลงในถุงบรรจุศพอย่างถูกวิธีจากสถานพยาบาลเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคแล้ว เมื่อศพผู้เสียชีวิตได้เคลื่อนย้ายมาถึงฌาปนสถานให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด อาทิ

162762028339

 

  • ผู้ปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสกับศพรวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่สัมผัสกับศพ เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายศพต้องสวมถุงมือยาง หน้ากากอนามัย และเสื้อคลุมกันเปื้อน แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

  • ไม่ต้องสวมชุด PPE เนื่องจากถุงศพภายนอกผ่านการบรรจุศพอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคแล้ว

  • ในการเผาศพ ควรใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษแบบสองห้องเผา กล่าวคือ มีห้องเผาศพและห้องเผาควันใช้น้ำมันดีเซลหรือก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิง มีระบบควบคุมการทำงานของหัวเผาและอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์

  • ในระหว่างการเผาศพ ให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเปิดประตูเตา หากจำเป็นต้องเปิดประตูเตาเพื่อเขี่ยศพหรือพลิกศพ ต้องปิดหรือลดความแรงของพัดลมในห้องเผาลงให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของสารคัดหลั่งจากศพ

  • เมื่อเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้วถือได้ว่าเชื้อโรคถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว 

  • จากนั้นให้ดำเนินการเก็บกระดูกเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศล แล้วจัดการขี้เถ้าที่เหลืออย่างถูกสุขลักษณะต่อไป

สำหรับผู้จัดงาน

  • ห้ามเคลื่อนย้ายศพออกจากหีบศพ และห้ามเปิดถุงบรรจุศพ เพื่อทำการแต่งหน้าหรืออาบน้ำศพโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

  • หากจะทำการรดน้ำศพให้ใช้วิธีการโยงสายสิญจน์ หรือผ้าโยงจากหีบศพเท่านั้น

  • การสวดพระอภิธรรมและการบำเพ็ญกุศลศพ สามารถดำเนินการได้เหมือนศพปกติทั่วไปแต่ให้ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการรวมตัวของผู้คน ได้แก่ ควรคัดกรองคนเข้าร่วมงาน การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและการจัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นต้น

  • รวมทั้งควรจำกัดจำนวนวันในการประกอบพิธีกรรมเท่าที่จำเป็น