แบรนด์ดังโลกวอนสหรัฐฉีดวัคซีนซัพพลายเออร์เวียดนาม

แบรนด์ดังโลกวอนสหรัฐฉีดวัคซีนซัพพลายเออร์เวียดนาม

แบรนด์ดังเสื้อผ้าแฟชันโลก รวมทั้งแก๊ป อะดิดาส วอนสหรัฐฉีดวัคซีนซัพพลายเออร์เวียดนาม หวั่นการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมสิ่งทอ

กลุ่มการค้าซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทแก็ป ,อะดิดาส และแบรนด์แฟชันระดับโลกรายอื่นๆร้องขอให้รัฐบาลสหรัฐและเวียดนามช่วยนำวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19มาฉีดให้บรรดาคนงานที่ทำงานในโรงงานที่เป็นซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมสิ่งทอของเวียดนาม ด้วยความกลัวว่า หากไม่ขอให้รัฐบาลสหรัฐและเวียดนามยื่นมือเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ จะทำให้การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรม

ในจดหมายสองฉบับที่ส่งถึงรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลเวียดนาม เมื่อวันอังคาร(27ก.ค.) the American Apparel & Footwear Association ขอให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ให้แก่เวียดนามมากกว่านี้ พร้อมทั้งแนะว่าวัคซีนที่สหรัฐส่งมาควรฉีดให้แก่บรรดาคนงานที่โรงงานในโรงงานผลิตเสื้อผ้าและรองเท้าในกรุงฮานอยก่อน หลังจากที่มีคนงานในโรงงานเหล่านี้ติดเชื้อโควิด-19เพิ่มมากขึ้นจนส่งผลให้ต้องปิดโรงงานไปจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ บรรดาผู้ประกอบการในโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แก้ปัญหาการดิสรัปของระบบห่วงโซ่อุปทานด้วยการให้พนักงานนอนที่โรงงานเพื่อให้สายการผลิตเดินหน้าต่อไปได้ แต่การมีรายได้ลดลงก็ทำให้โรงงานสิ่งทอและโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่มีสายป่านไม่ยาวนัก ไม่สามารถเดินสายการผลิตต่อไปได้

เวียดนามเป็นประเทศส่งออกเสื้อผ้า สิ่งทอ และรองเท้าไปยังตลาดสหรัฐมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากจีน แต่ก็เป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนของประชากรต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทุกวันนี้ ประชากรกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คือเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ และทหาร

สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอของเวียดนาม ซึ่งมีสมาชิกเป็นแบรนด์แฟชันชั้นนำของโลก 1,000 แบรนด์ ขอร้องให้ "ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์"นายกรัฐมนตรีของเวียดนาม เพิ่มบริษัทผลิตสิ่งทอและเสื้อผ้าเข้าไปในรายชื่อบริษัทที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ด้วย

“หากได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันทั้งจากรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลเวียดนามในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่คนงานในกลุ่มซัพพลายเออร์สิ่งทอและเสื้อผ้าแบรนด์ดังในเวียดนามจะช่วยให้ความวิตกกังวลของบรรดาเจ้าของแบรนด์ชั้นนำสหรัฐบรรเทาลง”สตีฟ ลามาร์ ซีอีโอสมาคมสิ่งทอเวียดนาม กล่าว

สมาชิกของสมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอประกอบด้วยบริษัทที่ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ดังมากมาย ตั้งแต่เสื้อเชิตของคาลวิน ไคลน์ไปจนถึงรองเท้ายี่ห้อเอคโค่ และกระเป๋าเป้ยี่ห้อแจนสปอร์ต

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในเวียดนาม ที่ทำให้มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทชั้นนำของโลกอย่างไนกี้ ซึ่งระบุว่าบริษัทได้ว่าจ้างผู้ผลิตรายย่อยในเวียดนามจำนวน 200แห่งผลิตรองเท้ากีฬาให้ ถือเป็นสัดส่วน 50% ของการผลิตรองเท้ากีฬาทั่วโลกของบริษัทในปี 2563

“ปานชีวา” หน่วยงานในเครือเอสแอนด์พี โกลบอล ระบุในรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า ไนกี้อาจเผชิญหน้ากับการผลิตที่ลดลงเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในเวียดนามที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งที่โรงงานผลิตต้องตัดสินใจระงับการผลิตชั่วคราวเนื่องจากคนงานติดโควิด-19เพิ่มขึ้น

การส่งจดหมายขอความช่วยเหลือด้านวัคซีนของตัวแทนแบรนด์เสื้อผ้าดังมีขึ้นหลังจากหน่วยงานเทศบาลนครโฮจิมินห์ซิตีตัดสินใจประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 18.00-06.00 น. ของวันที่ 26 ก.ค. โดยสั่งห้ามประชาชนทั่วเมืองเดินทางออกนอกบ้านทุกกรณี ยกเว้นกิจกรรมทางการแพทย์ฉุกเฉิน หรือการประสานงานที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19

โฮจิมินห์บังคับใช้กฎการรักษาระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดที่สุดของเวียดนามภายใต้คำสั่งข้อที่ 16 ของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. โดยสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ห้ามรวมตัวกันเกิน 2 คน และระงับบริการขนส่งสาธารณะ

ก่อนจะเริ่มการระบาดระลอกใหม่ในเดือนเม.ย. เวียดนามพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไม่ถึง 3,000 ราย แต่ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมถึง 78,269 ราย และเสียชีวิตอย่างน้อย 370ราย

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในมาตรการรับมือกับการระบาดครั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามพยายามพึ่งพาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ที่ผลิตเอง โดยตัดสินใจเจรจากับสหรัฐเพื่อผลิตวัคซีนชนิด mRNA ในประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ หรือไม่เกินต้นปีหน้า และมีกำลังผลิต 100-200 ล้านโดสต่อปี