ครม.ปรับแผนบริหารหนี้สาธารณะเพิ่ม 1.5 แสนล้าน ดันหนี้ต่อจีดีพีเฉียด 59%
ครม.ไฟเขียวปรับแผนบริหารหนี้สาธารณะปี 64 ครั้งที่ 3 เพิ่ม 1.5 แสนล้านบาท รองรับแผนการกู้เงิน 5 แสนล้านบาท การเยียวยาโควิด ชี้ไม่ได้เป็นการกู้วงเงินใหม่แต่กู้ตามกรอบที่มีอยู่ หนี้สาธารณะไทยแตะ 58.88% สิ้นปี 64 ยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (27 ก.ค.) อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ปรับปรุงครั้งที่ 3
โดยปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่ มีวงเงินปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ 1.5 แสนล้านบาท ทำให้กรอบวงเงินเพิ่มขึ้นจากเดิม 1,647,131 ล้านบาท เป็น 1,797,131 ล้านบาท
เพื่อนำไปใช้ตามแผนงาน หรือโครงการกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินฯ 5 แสนล้านบาท โดยเฉพาะนำไปเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้กระทวงการคลัง แจ้งว่าการดำเนินการดังกล่าวมีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้สำหรับดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายในปีงบประมาณ 2564 ทั้งนี้ วงเงินดังกล่าวเป็นการเปิดกรอบวงเงินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการกู้เงินตาม พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม ซึ่งกระทรวงการคลังยังไม่ได้ดำเนินการกู้เงินแต่อย่างใดและจะกู้เงินเมื่อคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้พิจารณาและเสนอ ครม. เพื่ออนุมัติแล้วเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในขั้นตอนการดำเนินการ กระทรวงการคลังไม่ได้กู้ทั้งจำนวนแต่จะทยอยกู้เงินตามความจำเป็นของแผนการใช้จ่ายเงิน โดยเมื่อปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 3 ระดับหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564 เท่ากับ 58.88% ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 60% ต่อจีดีพี
