'โควิด-19' ปัตตานี พื้นที่สีแดงเข้ม เสียชีวิต 7 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 163 คน

'โควิด-19' ปัตตานี พื้นที่สีแดงเข้ม เสียชีวิต 7 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 163 คน

สถานการณ์ COVID-19 พื้นที่สีแดงเข้ม จ.ปัตตานี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 163 คน เสียชีวิต 7 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมทะลุหลักร้อย

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 สถานการณ์โควิด-19 ใน จ.ปัตตานี ที่กำหนดเป็นพื้นทีสีแดงเข้ม และมีมาตรการควบคุมคุมสูงสูด ยังคงน่าเป็นห่วง ยังไม่น่าไว้ว่างใจได้ โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อ วันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 163 คน ผู้ป่วยสะสม 7,863 คน รักษาหายแล้ว 4586 คน แต่ที่น่าตกใจพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 7 คน ทำให้ยอดสะสมเสียชีวิตทะลุหลักร้อย จำนวน 102 คน

ซึ่งแม้ว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อจะมีจำนวนที่ลดลง แต่ที่ยังคงน่าเป็นห่วงคือ ยังคงพบผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้เสียชีวิตก็เป็นผู้สูงอายุที่ได้รับเชื้อจากลูกหลานที่กลับจากทำงาน ซึ่งตอนนี้ยังคงมีผู้ป่วยอาการหนักกว่า 169 คน ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี บางรายต้องใช่เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องไฮโฟว์ ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อีกทั้งพบว่า 95% ของผู้เสียชีวิต ไม่ได้ฉีดวัคซีน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเสียชีวิตที่บ้าน หากพบว่าอยู่ในกลุ่มสีเหลืองก็จะถูกนำส่งโรงพยาบาลทันที เพราะการเสียชีวิตที่บ้านจะไม่ปลอดภัย ญาติอาจจะสัมผัสศพโดยตรง ซึ่งทำให้ติดเชื้อง่าย และขยายวงกว้างขึ้นไปอีก

สำหรับการจัดการศพของศาสนาอิสลาม ในช่วงของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมีความแตกต่างสถานการณ์ปกติที่ใช้น้ำอาบน้ำศพ แต่กรณีมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อโควิด-19 จะมีการอาบน้ำศพแบบตะยัมมุม หรือการใช้ดินฝุ่นทดแทนการใช้น้ำ เพื่อไม่ให้สัมผัสศพโดยตรง ซึ่งหลังทำการหุ้มศพใส่ถุงซิบเรียบร้อย ผู้จัดการศพจะใช้มือตบดินฝุ่นสองครั้ง ครั้งหนึ่งลูบหน้า อีกครั้งหนึ่งลูบมือทั้งสองข้างจนถึงข้อศอกทั้งสองข้าง จากนั้นผู้นำศาสนาหรือญาติจะทำการละหมาดให้แก่ศพ ณ สถานที่ตรงนั้น หลังจากนั้นให้นำศพไปฝังที่สุสานโดยเร็วที่สุด โดยให้สวมชุดป้องกันโควิด19

อย่างไรก็ตาม พิธีฝังศพในหลายพื้นที่พบว่า ส่วนใหญ่ประชาชนไม่ปฏิบัติตามมาตรการ หลายคนไม่สวมชุดป้องกัน ซึ่งมีเพียงเจ้าหน้าทีไม่กี่คนเท่านั้นที่สวมชุด อีกทั้งประชาชนมักจะเข้ามาใกล้ศพ พิธีฝั่งศพก็มีประชาชนมาร่วมหนาแน่น ไม้เว้นระยะ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งหากจังหวัดไม่เด็ดขาด การแพร่ระบาดของโควิด19 ใน จ.ปัตตานี ก็จะไม่หยุด