TNP - ถือ (23 ก.ค.64)

TNP - ถือ (23 ก.ค.64)

คาดกำไรงวด 2Q64 ชะลอจากไตรมาสก่อน 35%แต่ยังคงเติบโต 32%YoY

ประเด็นสำคัญในการลงทุน

·     คาดกำไรงวด 2Q64 ราว 37 ลบ. +32%YoY -35%QoQ: เราคาดรายได้งวด 2Q64 ราว 600 ลบ. +16%YoY -21%QoQ โดยไตรมาสนี้บริษัทขยายสาขาเพิ่มขึ้น 1 แห่งที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา สู่ทั้งหมด 34 สาขา (+4 สาขา YoY +1 สาขา QoQ) อย่างไรก็ดี แนวโน้มรายได้จะหดตัว QoQ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านแอพพลิเคชั่น เป๋าตังทยอยสิ้นสุดเมื่อช่วงปลายเดือน มี.. แต่เพิ่งกลับมาใช้มาตรการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 20 .. ประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอลง นอกจากนี้ ไตรมาส 2 ยังเป็นช่วง Low Season ของปีทำให้ผลประกอบการมีแนวโน้มหดตัวแรงจากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ดี คาดว่า %GPM ยังทรงตัวในระดับสูงที่ระดับ 16% ส่วน %SG&A คาดราว 9% สูงขึ้นจาก 1Q64 ที่ระดับ 7.3% แต่ลดลงจาก 2Q63 ที่ระดับ 10% ส่งผลให้คาดกำไรงวด 2Q64 ราว 37 ลบ. +32%YoY -35%QoQ

·     คาดกำไรปี 64-65 ราว 177 ลบ. +32%YoY และ 192 ลบ. +9%YoY: แม้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 อย่างไรก็ดี แต่ การที่ภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องและทุกสาขายังเปิดให้บริการตามปกติ ส่งผลให้เราคงประมาณการรายได้ทั้งปี 64 ตามเดิมที่ราว 2,593 ลบ. +18%YoY จากสมมติฐานการขยายสาขาเพิ่ม 5 สาขา ซึ่งเปิดแล้ว 2 สาขาในช่วง 1H64 และมีแผนจะเปิดใน 2H64 จำนวน 3 สาขา ขณะที่คาดว่า %GPM จะทรงตัวในระดับสูงที่ 16.3% เท่ากับปี 63 ส่วน %SG&A คาดจะปรับลดลงสู่ 8.5% จากเดิมคาดที่ 9.5% เป็นผลจากการประหยัดจากขนาด ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 64 คงเดิมที่ราว 177 ลบ. +32%YoY ทั้งนี้ เราคาดแนวโน้มรายได้และกำไรในช่วง 2H64 จะใกล้เคียงกับ 1H64 แม้งวด 1Q64 มีฐานสูงจากมาตรการภาครัฐที่มากกว่า แต่คาด 3Q64-4Q64 จะทยอยฟื้นตัว QoQ จากมาตรการคนละครึ่งเฟส 3’ และ ยิ่งใช้ยิ่งได้ โดยไตรมาส 4 จะเป็น High Season ของปี ส่วนปี 65 บริษัทคงเป้าแผนการเปิดสาขาใหม่ 5 สาขา ในแถบ 3 จังหวัดเดิม คือ เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา โดยเราคาดการณ์รายได้และกำไรสุทธิปี 65 ราว 2,815 ลบ. +9%YoY และ 192 ลบ. +9%YoY ตามลำดับ

·     คงคำแนะนำ ถือ ราคาเหมาะสมปี 64 ราว 6 บาท: เราคงประเมินราคาเหมาะสม TNP ปี 64 ราว 6 บาท ซึ่งอิง Prospective PER ที่ระดับ 27.5x (3Yr.Avg.+1.25SD) ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 32x ประกอบกับคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 64 ราว 0.22 บาท และเราคงยังคงคำแนะนำ ถือ ขณะที่คาดราคาหุ้นมีโอกาสถูกกดดันจากผลประกอบในช่วง low season และลดลงจากไตรมาสก่อน

ปัจจัยเสี่ยง

i) แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีก

ii) แผนการขยายสาขาไม่เป็นไปตามเป้า

iii) การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเริ่มชะลอลง

iiii) ภาครัฐหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจ