เปิดสถิติ ชาวออฟฟิศ 'อู้งาน' ไปทำอะไรบ้าง ช่วง Work From Home?

เปิดสถิติ ชาวออฟฟิศ 'อู้งาน' ไปทำอะไรบ้าง ช่วง Work From Home?

นอกจากจะแอบ "ทำงานนอก" ในเวลางานประจำแล้ว ไปดูกันว่ายังมีอะไรอีกบ้างที่เป็นสิ่งสุดแปลกที่คนทำในช่วง Work From Home?

การระบาดของโควิด-19 ยังคงไม่ดีขึ้นพอที่จะทำให้ทุกคนกลับไปทำงานที่ออฟฟิศได้ในปีนี้อย่างแน่นอน

ล่าสุดมีสถิติที่น่าสนใจจาก อี-โคโนไลต์ (e-conolight) บริษัทเกี่ยวกับการค้ารายหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า “พนักงานออฟฟิศ เสียเวลาไปกับการ ทำอะไรที่ไม่ใช่งาน มากที่สุด ระหว่างช่วง Wok From Home?”

“กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” ชวนดู อะไรคือสิ่งที่ไม่ใช่งานที่แปลกที่สุดที่พนักงานออฟฟิศทำในช่วงที่ทำงานอยู่ที่บ้าน ข้อมูลนี้กำลังบอกอะไรทุกคน แล้ววิธีใดที่ช่วยให้คุณมีสมาธิกับงานมากขึ้น?

162695808015

กิจกรรมที่ไม่ใช่งานที่คนมักทำในเวลา Work From Home?

(เรียงลำดับพฤติกรรมจากมากไปน้อย)

1. แอบงีบหลับ 60%

2. แอบออกไปหาแฟน นัดเดท หรือมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 42%

3. โทรคุยเล่นกับเพื่อนหรือครอบครัวเป็นระยะสั้นๆ บ้าง 23%

4. แอบดื่มแอลกอฮอล์ในเวลางาน โดยมากมักเป็นผู้ชาย 56%

5. ช้อปปิ้งของออนไลน์ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 76%

6. เล่นโซเชียลมีเดีย โดยมากเป็น Gen-Z อย่างน้อยที่สุด วันละหนึ่งชั่วโมง 61%

7. แอบทำธุระส่วนตัว โดยไม่บอกใคร 56%

8. แกล้งทำเป็นเหมือนทำงาน แต่จริงๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างน้อยที่สุด สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง 74%

ทั้งนี้พฤติกรรมสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ส่งผลกระทบ สร้างความเสียหายต่องาน ดังนี้

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับงาน จากการที่พนักงานบกพร่องในหน้าที่ช่วง Work From Home

- ทำให้เข้าประชุมหรือวาระสำคัญสาย ถึง 51% เพราะทำสิ่งอื่นที่ไม่ใช่งานจนลืมการนัดหมายที่สำคัญ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอย่างน้อยหนึ่งครั้ง คิดเป็น 55% และเป็นผู้หญิงอีก 42% 

- ทำให้เกิดการทำงานล่วงเวลา ถึง 28% อันซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในกลุ่มนี้ 

- ทำให้งานไม่คืบหน้า ถึง 39% เพราะคนกลุ่มนี้เอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นที่ไม่ใช่งาน

นอกจากนี้ข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจจากรายงานชิ้นนี้ยังเผยให้เห็นอีกว่า คนกว่าครึ่งที่ทำการสำรวจ ยอมรับว่า "เคยแอบทำงานนอกในเวลางานหลัก" กว่า 45.3% โดยมากเป็นเพศชายและกลุ่มคนมิลเลนเนียลส์ 

โดยเหตุผลที่รับงานนอกมาทำงานเพิ่มเติม มีสาเหตุมาจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ทางการเงินเสียหายไปไม่น้อย ทำให้ต้องพยายามหาค่าครองชีพให้มากขึ้น และเก็บออมเงินให้สูงขึ้น

4 วิธีที่ทำให้คุณมีสมาธิจดจ่อกับงานมากขึ้น

1. ปิดกั้นอินเทอร์เน็ต

นอกจากโซเชียลมีเดียจะเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กนักเรียนหลุดจากสมาธิได้ง่ายและไม่มีความอดทนต่อการเรียน โซเชียลมีเดียก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใหญ่วัยทำงานไม่สามารถจดจ่อกับงานได้อย่างดีเช่นกัน ดังนั้นแล้วการหักดิบด้วยการตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอาจเป็นหนึ่งในวิธีที่ดี หรือหากต้องใช้อินเทอร์เน็ตติดต่องานก็ให้ทำการปิดเสียงแจ้งเตือนแอพฯ นั้นๆ แทน

2. ตั้งรางวัลให้ตนเองเมื่อทำงานเสร็จ

การหักห้ามใจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นแล้วหากตั้งรางวัลให้ตัวเองเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพก็อาจเป็นหนึ่งทางที่ช่วยให้งานสามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เช่น ตั้งรางวัลไว้ว่า หากทำงานนนี้เสร็จจะให้ตัวเองออกไปหาขนมหวานกินหนึ่งอย่าง หรืออนุญาตให้ตนเองได้ทำสิ่งที่อยากทำเพื่อพักผ่อนยี่สิบนาที เป็นต้น 

3. จัดระเบียบเอกสาร วางแผนตารางเวลาทำงาน และการทำสิ่งอื่นๆ

หากมีธุระยุ่งเหยิงจนเกินไปนั่นอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้จัดระเบียบให้สิ่งเหล่านั้นเป็นอย่างดี ดังนั้นแล้วควรตั้งแผนล่วงหน้าว่า ในช่วงเวลาใดควรทำอะไรอยู่เป็นต้น เพื่อไม่ทำให้เวลาที่ต้องทำสิ่งสำคัญ ณ เวลานั้นๆ ถูกละเลยความสำคัญ ซึ่งหากทำอะไรเป็นระเบียบก็จะทำให้ชีวิตของคุณไม่ต้องพบเจอกับการทำงานล่วงเวลาจนส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย

4. วางแผนการซื้อของให้เป็นระเบียบ 

การชอปปิงเป็นสิ่งที่หักห้ามใจยาก เพราะยิ่งซื้อก็ยิ่งสนุกและเพลิดเพลิน แต่วิธีที่ดีคือการกำหนดแผนการซื้อของ งบจำกัดที่ตั้งไว้ รวมถึงอาจใช้วิธีการตัดสินใจว่าของที่จะซื้อเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นด้วย เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

อ้างอิง: e-conolight, better than sure

*ข้อมูลสถิติเรื่อง พนักงานออฟฟิศ เสียเวลาไปกับการ ทำอะไรที่ไม่ใช่งาน มากที่สุด ระหว่างช่วง Wok From Home ที่ปรากฎในบทความนี้ เป็นข้อมูลที่มาจากการเก็บข้อมูลสำรวจผู้คนจำนวนกว่า 1,000 คน ของบริษัทอี-โคโนไลท์