โต้เดือด! 'สิระ'ซ้อมตายจี้ปลด'หมอโอภาส' -'ศุภชัย'งัดคำสั่งอัดศบค.-กทม.ผิดแผนเอง

เปิดศึกเดือด! 'สิระ'ลงโลงซ้อมตายจี้ปลด'หมอโอภาส-บิ๊กสธ.' แก้โควิดล้มเหลว เจอ 'ศุภชัย'งัดคำสั่งนายกฯ สวนต้นตอผู้ติดเชื่อลาม อัดศบค.-กทม.บริหารสถานการณ์-วัคซีนผิดแผน

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวว่า การซ้อมตายในวันนี้ คือ การออกมาเรียกร้องให้กับประชาชน ที่ขณะนี้ ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาของระบบสาธารณสุขได้เลย

ทั้งที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ภาพที่ปรากฎ คือ คนไทยจำนวนมากนอนรอความตายอยู่ที่บ้าน แม้กระทั่งยาฟาวิพิราเวียร์ก็ไม่ได้กิน เพื่อปกป้องชีวิตของตัวเอง

สิ่งที่เกิดขึ้นนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ จะวางเฉยไม่ได้ ในเมื่อเป็นคนที่ได้รับมอบหมายมาให้แก้ไขเรื่องนี้ ถ้าแก้ให้คนไทยไม่ได้ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขต้องสั่งเปลี่ยนตัว ให้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มาทำหน้าที่แทน ชีวิตของคนไทยไม่สามารถอยู่ในมือคนไร้ความสามารถได้อีกต่อไป ใครที่ทำไม่ได้ ก็พิจารณาตัวเอง ลาออกไปซะ ท่านต้องตอบคำถามกับประชาชนให้ได้ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องวัคซีนว่าทำไมต้องเจาะจงเฉพาะยี่ห้อนี้ ทำไมถึงแทงม้าตัวเดียว มีความพิเศษตรงไหน เรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของ ศบค.เพราะเป็นการเซ็นสัญญาซื้อตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว 

162675970348

วิกฤตวันนี้คือ ระบบสาธารณสุขกำลังล่มสลาย แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องลอยตัวกับปัญหา ออกข่าวให้ประชาชนใช้ยาฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษา แต่กลับไม่มีการควบคุมราคา และคุณภาพ ที่สำคัญคือของขาดตลาด ประชาชนหาซื้อไม่ได้ วันนี้เขาไม่มีทางเลือกอะไรกันแล้ว นอกจากรอว่าตัวเองจะดวงซวยติดโควิด และรับสภาพรอความตายที่จะมาถึงเท่านั้น ตนขอแช่งให้บรรดาบุคคลที่ยังหากิน หาผลประโยชน์จากวัคซีน และเห็นการตายของคนไทยเป็นของเล่นว่า ขอให้พบกับภัยพิบัติทางการเมืองและชีวิตครอบครัว และขอให้กรรมตามทันคนเหล่านี้ภายในภพชาตินี้

ทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ตอบโต้เรื่องดังกล่าวว่า 

วันนี้เห็นข่าว ส.ส.กทม.นายสิระ ลงโลงซ้อมตาย กล่าวหาว่าเพราะระบบสาธารณสุขล้มเหลว มีการกล่าวพาดพิงถึงผมถึงคุณหมอในกระทรวงสาธารณสุขที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก แต่ผมไม่ถือสาหาความกับคนพรรค์นี้หรอก แต่ไหนๆก็ไหนๆ ผมจะขอแจมพูดสิ่งที่อึดอัดขัดข้องใจเรื่องนี้ด้วยก็แล้วกัน

คือเรื่องการบริหารจัดการโควิดในกรุงเทพฯที่เละเทะอยู่ในวันนี้ เพราะเรื่องการบริหารจัดการในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น นายกฯประยุทธ์ ท่านได้ออกคำสั่งแต่งตั้ง ตามคำสั่งที่ 6/2564 เรื่องจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งคำสั่งนี้มีท่านนายกฯเป็นผู้อำนวยการศูนย์เอง มีเลขาสภาความมั่นคงฯ ผู้ว่า กทม.อัศวิน ปลัดกระทรวงหลายกระทรวง เป็นรองผู้อำนวยการ มีอธิบดีจากสาธารณสุขมาเป็นกรรมการ และแน่นอนไม่มีรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขอยู่ในคณะนี้

ซึ่งกรณีเช่นนี้คนสธ.จะคิดกันอย่างไรจะคิดเห็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ก็ก้มหน้าทำ ด้วยจิตวิญญาณของแพทย์และคนสาธารณสุข

และเมื่อดูหน้าที่ และอำนาจคณะกรรมการ 3 ข้อ จะเห็นว่าครอบจักรวาลทั่วฟ้ากทม. กทม.ที่อยู่ใต้อำนาจนายกฯ ในฐานะผอ.ศบค. และ หัวหน้าศูนย์ควบคุมโควิด กทม.และปริมณฑล

แต่ทำงานไม่ได้ ล้มเหลว จนประชาชนตายคาบ้าน อย่างที่เห็น และคนถูกด่าก็คือกระทรวงสาธารณสุข ด่าอนุทิน ทั้งที่ไม่มีหน้าที่ไม่มีอำนาจตามคำสั่งนั้น

เวลานี้หนักที่สุดคือ กทม. กทม.ที่ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของสธ. แต่เป็นผู้ว่าฯ อัศวิน คนกทม. ตายมากที่สุด ติดเชื้อมากที่สุดเพราะใคร? แต่คงจะเปล่าประโยชน์ที่จะพูดว่าเพราะคณะกรรมการชุดนี้ ที่มี นายกฯ เป็นผอ.ศูนย์ มีผู้ว่าฯกทม. เป็นรองผอ. แต่เป็นคณะที่ไม่มีคนดูแลระบบสาธารณสุขของประเทศเป็นกรรมการ เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่นายกฯ กับ ศบค. และ กทม. ตัด กระทรวงสาธารณสุขออกจากการแก้ปัญหาโควิด ในกทม.

แน่นอนว่าการแก้ปัญหาในรายละเอียดไม่ควรจะเป็นหน้าที่ของนายกฯ แต่ควรเป็นเรื่องของ ผู้ว่า กทม อัศวิน แต่ถามว่าวันนี้ ผู้ว่า กทม.หายไปไหน แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีหรือไม่ หรือเดินตามหลังสถานการณ์อยู่กี่ก้าวรู้หรือไม่

กทม.มีรพ.ของตัวเอง ทำไมปล่อยให้คนไปนอนรอหน้าวัดพระศรีฯ แบบน่าอนาจใจ

สธ.พยายามคุมเชื้อเต็มที่แต่วันหนึ่ง นโยบาย ศบค. ซึ่งรับผิดชอบโดย เลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็ไล่คนกลับไปตจว. ด้วยการปิดแคมป์คนงาน ปิดร้านอาหาร คนจนจากชนบท ที่มาหากินในเมือง ต้องกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด เอาเชื้อไปติดมากมาย รพ.ตจว. รับไม่ทัน รับไม่ไหว เชื้อกระจายทั่วประเทศ คุมไม่ได้

เรื่องการฉีดวัคซีน สธ.เสนอให้ฉีด คนแก่ คนป่วยก่อน แต่กทม.เอาไปฉีดให้คนไม่แก่ ไม่ป่วย รัฐบาลเอาไปฉีดแรงงานในระบบประกันสังคม ผลคือ คนแก่ คนป่วย ตายเยอะมาก เพราะอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีคนเอาเชื้อมาให้ แบบ พ่อแม่พี่เป็ด เชิญยิ้ม คนตรังบ้านผม ซึ่งน่าเศร้ามาก

หรือเพราะคิดแต่จะเล่นการเมือง จะหาเสียงกับโควิด และ วัคซีน แต่สุดท้าย เอาไม่อยู่ ทำให้ กทม. เป็นรังของโรค เป็นศูนย์กลางการระบาดของโคิดในประเทศไทย อ่านราชกิจจาที่ออกมาเรื่อง Lockdown วันนี้ เขียนชัดว่า ต้นเหตุคือ กทม.และปริมณฑล ที่ควบคุมโรคไม่ได้ เกิดการระบาดหนัก จนกระจายไปทั่วประเทศ

วันนี้ต้องเรียกร้องต่อ ผู้บริหารกทม. ทำไมปล่อยให้คนป่วยตายคาบ้าน รอจนตาย ไม่ไปรับตัว

กทม. เละทุกวันนี้ ก็เพราะผู้บริหารกทม. กีดกัน สกัดกั้น ไม่ให้กระทรวงสาธารณสุข เข้าไปทำงานในพื้นที่ กทม.

เวลานี้ สธ.กำกับดูแล 76จังหวัด จะเห็นว่าสามารถจัดการได้ดี เพราะคนสาธารณสุขทุ่มเทหัวใจทำงานอย่างมืออาชีพเพราะรู้งานเข้าใจงาน การจัดการเรื่องสาธารณสุข ไม่ต้องใช้อำนาจ แต่ต้องใช้สมอง และหัวใจ ต้องได้รับความร่วมมือ ความไว้วางใจจากประชาชน ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ ก็พัง

162676102990

สิ่งที่ประชาชนอาจไม่รู้ก็คือ สธ.ไม่อาจนิ่งดูดายเห็นความยากลำบากของพี่น้องประชาชนได้ สุดท้าย กระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องมาตั้งรพ.สนามชื่อว่า บุษราคัม ขนาด 4000 เตียง เพื่อช่วยกรุงเทพมหานครของผู้ว่าฯอัศวิน ช่วยคน กทม. แต่ต้องมาตั้งที่ เมืองทองธานีจังหวัดนนทบุรี และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในการแก้ปัญหาโควิดในกรุงเทพมหานคร และอยากบอกคน กทม.ว่า ท่านควรรู้ว่า หากอยากด่าอนุทินก็ด่าไป แต่การด่าอนุทิน เป็นการด่าผิดคน ยิงผิดตัว เพราะอนุทิน ถูกตัดออกจากการทำงาน การแก้ปัญหาใน กทม. ไปตั้งแต่ต้นแล้ว

เปล่าประโยชน์ที่ ส.ส.ชื่อ สิระ จะซ้อมลงโลง แสร้งตาย แล้วแถลงข้อมูลผิดๆบิดเบือนตามสติปัญญาที่มี ส.ส.ไปถามผู้ว่า ฯกทม.เถิดว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างไร ก่อนเชื้อจะลามมาติดเข้าจริงๆ แล้วอาจตายจริงแล้วเอาไปเผาจริง ต้องเลือกตั้งซ่อมกันอีกคนจะบ่นเสียดาย ส.ส.คนดีว่าไม่น่าตายเล้ย??