"ประยุทธ์" ขันน็อต "กฎโควิด" "คุมโรค-คุมม็อบ" เบ็ดเสร็จ

"ประยุทธ์" ขันน็อต "กฎโควิด"  "คุมโรค-คุมม็อบ" เบ็ดเสร็จ

เมื่อ 'รัฐบาล' เพิ่มระดับกฏเหล็กคุมโรคระบาด ควบคู่กับล็อคความเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ต้องลุ้นกันว่า บรรดาม็อบผู้ใหญ่ ม็อบเยาวชน จะปรับขบวนท่า ฝ่ากฎโควิดกันอย่างไร

ถ้าไม่คิดอะไรซับซ้อน ความห่วงใยต่อสถานการณ์โควิดที่ยังหยุดไม่อยู่ "คำเตือนล่วงหน้า"ของนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ราวๆ 2 ทุ่มของคืนวันที่ 16 ก.ค.2564 จ่อยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ - เคอร์ฟิว 10 จังหวัดสีแดงเข้ม ให้ข้นยิ่งขึ้น ทั้งจำกัดการเดินทาง ปิดสถานที่เพิ่ม ย่อมสมเหตุสมผล และสมควรต้องร่วมมือปฏิบัติ เพราะสถานการณ์โรคระบาดซีเรียสขั้นสุด

แต่ถ้าคิดหลายชั้น ดูเชิงการเมือง ก็ย่อมสงสัยได้ว่า หรือนายกฯ จะฉวยจังหวะเอามาตรการคุมโรคระบาด มาคุมการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ 

ปรากฎว่า ในเวลาไม่ห่างกันนัก ราชกิจจานุเษกษาก็เผยแพร่ประกาศตามมาติดๆ เป็นคำสั่ง ของ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เน้นย้ำการบังคับใช้ประกาศหลายฉบับก่อนหน้านี้

ที่สรุปประเด็นได้ว่า ห้ามชุมนุม ทำกิจกรรม มั่วสุม ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค หรือการกระทำที่เป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด 

เน้นย้ำ เรื่องมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน เฉพาะในเขตพื้นที่ กทม. จังหวัดปริมณฑล นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ห้ามการชุมนุมหรือการทำกิจกรรมที่รวมกันเกิน 5 คน  โทษฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท 

ฉะนั้นก็ชัดเจน ไม่ต้องตีความกันแล้ว เมื่อประกาศนี้ ให้มีผลตั้งแต่คืนวันที่ 16 ก.ค.เรียกได้ว่า เป็นการชิงประกาศกฏเหล็ก คุมทั้งโควิด คุมทั้งม็อบ แบบเบ็ดเสร็จ อย่างปัจจุบันทันด่วน ตัดหน้าม็อบที่นัดลงถนนเพียงแค่วันเดียว คือในวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค.

จะว่าไปแล้ว ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ต้องคุมหน้างานเป็นด่านแรก ก็เรียกประชุมเตรียมแผน เตรียมกำลังพล รับสถานการณ์ เขย่าขวัญทุกวันเสาร์ อย่างไม่ประมาทเช่นกัน 

โดยเฉพาะเมื่อ "บก.ลายจุด" สมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มคาร์ม็อบ ที่่รับฝากมวลชนกลุ่มไทยไม่ทน (ที่จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ฝากฝังไว้ก่อนกลับเข้าคุก) ก็เพิ่งจะแย้มแผนประชิดทำเนียบฯ วันอาทิตย์ 18 ก.ค.แบบทีเล่นทีจริง
โดยออกไอเดียว่า ถ้าออกแบบม็อบ ก็จะจัดขบวนแถว เดินแบบสวนสนาม ตีกลองให้จังหวะ เว้นระยะห่าง ถือป้ายรูปใบหน้าทั้ง ครม. และไปไล่ "ประยุทธ์" หน้าทำเนียบฯ 

ส่วนกิจกรรมเมื่อไปถึงแล้ว จะปราศรัย กล่าวประวัติ สรรเสริญคุณงามความดีที่เคยก่อไว้ในสังคมไทยตลอดทางด้วยความอาลัย หรือจะทำพิธีเรียกวิญญาณออกจากทำเนียบ ฯ พ่นสเปรย์ หรือเอาสีชอล์คเขียนข้อความ "ประยุทธ ออกไป" ก็สุดแล้วแต่จะพิจารณา ว่างั้น

ขณะที่ม็อบเยาวชนปลดแอก ก็โฆษณาโหมโรง นัดหมายระดมกำลังชุดใหญ่ ไปปักหลักที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บ่าย 2 โมง วันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบฯ โดยมีเป้าหมายไล่นายกฯ เหมือนม็อบผู้ใหญ่

โดยแนวร่วมม็อบส่วนนี้ ประกอบด้วย เยาวชนปลดแอก FreeYOUTH  กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ขบวนการริมสระ คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวัง DemHope เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยทะลุฟ้า เฟมินิสต์ปลดแอก ภาคีบุคลากรสาธารณสุข ราษฎรมูเตลู ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย สหภาพคนทำงาน สหภาพไรเดอร์ SUPPORTER THAILAND We Volunteer

ทั้งหมดมีข้อเรียกร้องในการชุมนุมครั้งนี้ร่วมกัน 3 ประเด็นหลัก กดดัน พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีเงื่อนไข เสนอให้ปรับลดงบสถาบันฯ งบกองทัพ เพื่อเอามาสู้วิกฤติโควิด เปลี่ยนวัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีน mRNA ฉีดฟรีให้ประชาชนถ้วนหน้า

เมื่อตรวจแนวรุก แนวรบของสองฝ่าย ต่างก็มั่นใจในยุทธวิธีตัวเอง เมื่อกฎหมายพร้อม กฏเหล็กพร้อม รถฉีดน้ำพร้อม ตำรวจพร้อม ก็ต้องลุ้นกันว่า บรรดาม็อบผู้ใหญ่ ม็อบเยาวชน จะปรับขบวนท่า ฝ่ากฎโควิดกันอย่างไร