ครม.เคาะ ‘เยียวยาล็อกดาวน์’ ชดเชยรายได้ 9 อาชีพ 10 จังหวัด วงเงิน 4.2 หมื่นล้าน

ครม.เคาะ ‘เยียวยาล็อกดาวน์’ ชดเชยรายได้ 9 อาชีพ 10 จังหวัด วงเงิน 4.2 หมื่นล้าน

ครม.อนุมัติมาตรการเยียวยาล็อกดาวน์ 10 จังหวัด ชดเชยค่าจ้างเพิ่ม 5 กลุ่มอาชีพ ลดค่าน้ำค่าไฟ 2 เดือนทั่วประเทศ รวมวงเงิน 4.2 หมื่นล้านบาท

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา อย่างน้อย 14 วัน

ทั้งนี้ จะช่วยเหลือกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ประชาชนตามข้อกำหนดของ ศบค.ฉบับที่ 27 ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้เสนอ วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท 

สำหรับช่วยเหลือแรงงานในระบบประกันสังคมและนอกระบบประกันสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการและมาตรการควบคุมการระบาดเพิ่มจากเดิม 4 สาขาอาชีพ คือ 

1. อาชีพสถานบริการ 
2. อาชีพก่อสร้าง 
3. ร้านอาหาร 
4. อาชีพกลุ่มศิลปะ บันเทิง และสันทนาการ

เป็น 9 สาขาอาชีพ โดยสาขาที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ 5 สาขา ได้แก่

5.สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า

6.สาขาการขายส่งและการขายปลีก

7.สาขาการซ่อมยานยนต์

8.สาขากิจกรรมการบริหารและสนับสนุนวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมวิชาการ

9.สาขาข้อมูลข่าวสารและการศึกษา

ระยะเวลาการช่วยเหลือ 1 เดือน โดยรูปแบบการช่วยเหลือ ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตาม ม.33 ได้รับการช่วยเหลือ 2,500 บาท ต่อคน และลูกจ้างที่ได้รับชดเชยจะได้รับเงินเดือน 50% ของค่าจ้าง รวมไม่เกินคนละ 10,000 บาท

สำหรับผู้ประกอบการจะได้รับรายละ 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน จำกัด ไม่เกิน 200 คน

ส่วนผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ได้รับความช่วยเหลือ 5,000 บาท 

ในขณะที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระ กรุงเทพธุรกิจรายงานว่าให้เตรียมหลักฐานเป็นผู้ประกันตน ซึ่งเป็นแนวทางที่ปรับเปลี่ยนจากการเยียวยาครั้งที่แล้ว

นอกจากนี้ ลดค่าน้ำค่าไฟ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

1.ลดค่าไฟ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ ระยะเวลา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) 

2.ลดค่าน้ำ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ ระยะเวลา 2 เดือน (ส.ค.-ก.ย.)

รวมทั้งมีมาตรการลดค่าเทอม โดยให้กระทรวงการศึกษา กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ให้ลดค่าธรรมเนียมการศึกษาในเทอมที่ 1 เป็นกรณีพิเศษ เพราะมีการเรียนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่