มติพรรคร่วมฝ่ายค้าน จ่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เซ่นพิษ'โควิด' เปิดทางปชช.มีส่วนร่วม

มติพรรคร่วมฝ่ายค้าน จ่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เซ่นพิษ'โควิด' เปิดทางปชช.มีส่วนร่วม

"ประเสริฐ" เผย มติ "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" เตรียม ยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล ตาม ม.151 เซ่น บริหาร "โควิด" ล้มเหลว เปิดโอกาสปชช.มีส่วนร่วม ด้วยการส่งข้อมูล ความผิดพลาด ทุจริต

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงหลังการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านประกอบด้วยหัวหน้าพรรค,เลขาธิการพรรค,ที่ปรึกษาและต้วแทนพรรค ได้จัดการประชุมระบบ ZOOM เพื่อหารือสถานการณ์ทางการเมือง โดยมีวาระการประชุมคือ

1. ประเมินสถานการณ์รัฐบาล การระบาดของโควิด-19 และแนวโน้มสถานการณ์ต่อจากนี้ความขัดแย้ง ความล้มเหลว และจังหวะก้าวของฝ่ายค้าน

2. การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งคณะ และรัฐมนตรีรายบุคคล

162609788059


โดยผลการประชุม
มีมติว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าสถานการณ์ประเทศในปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤติขั้นสูงสุด ประชาชนกำลังล้มตาย ประเทศกำลังเสียหายยับเยิน จากการระบาดของโควิด-19 โดยทั้งหมดเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดและล้มเหลวของรัฐบาล จนไม่อาจปล่อยให้สถานการณ์ย่ำแย่มากไปกว่านี้ได้

พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเห็นร่วมกันว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าเพื่อความรอบคอบและความครบถ้วนของประเด็นการอภิปราย รวมถึงการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน จึงเห็นสมควรเชิญพี่น้องประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ในการร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

โดยเสนอให้พี่น้องประชาชนเข้าร่วมด้วยการส่งข้อมูลความผิดพลาด ล้มเหลว รวมถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นมายังพรรคร่วมฝ่ายค้าน

"ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจร่วมกันระหว่างพี่น้องประชาชน ข้าราชการ และพรรคร่วมฝ่ายค้านในการหยุดยั้งรัฐบาลที่ล้มเหลว" นายประเสริฐ กล่าว

ทั้งนี้ ในระหว่างที่ไม่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน โดยจะนำเสนอท่าทีและความเห็นต่อสถานการณ์ประเทศต่อไป โดยจะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันจันทร์ที่ 19 .. 64 เวลา 10.00 . ส่วนรูปแบบการประชุมนั้นจะเป็นไปตามกฎหมายกำหนด โดยหลังจากสภาเปิดให้มีการร่วมประชุมได้จะได้แจ้งความคืบหน้าให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง