ธปท.รับล็อกดาวน์-โควิดเดลต้า เสี่ยงกดจีดีพีโตต่ำกว่าคาด 1.8%

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปี 2564 มีความเสี่ยงจะเติบโตต่ำกว่าคาดการณ์ในกรณีฐาน (Baseline) ที่ได้ประเมินเอาไว้ในช่วงปลายเดือน มิ.ย.2564 ที่ 1.8% ซึ่งเป็นการปรับลงจากเดือน มี.ค.ที่คาดจะเติบโต 3.0% เพราะในช่วงที่ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจปลายเดือน มิ.ย.การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่รุนแรงเท่าปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) และการเปิดประเทศ คาดว่าจะล่าช้าออกไป

โดยยอมรับว่าการล็อกดาวน์ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้ (12 ก.ค.) นับไปอีก 14 วันเป็นนโยบายที่รุนแรงกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ และคาดว่านโยบายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ จึงต้องติดตามผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่ง ธปท.จะติดตามผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงติดตามช่วงหลังล็อกดาวน์ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการอื่นๆ ออกมาอีกหรือไม่ หรือสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจะดีขึ้นและมีการผ่อนคลายได้หรือไม่ 

ส่วนการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลต้าถือเป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมากขึ้น แต่ได้มีการกล่าวถึงในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงที่ผ่านมาไปแล้ว หรือรวมไว้ในคาดการณ์ (Price-in) ปัจจัยลบดังกล่าวไปแล้วว่าในกรณีการระบาดยืดเยื้อกว่าคาดการณ์จีดีพีมีความเสี่ยงเติบโตต่ำกว่ากรณีฐานที่ประเมินเอาไว้ โดยโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้การควบคุมการระบาดทำได้ช้าลง และส่งผลให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ช้าลง

"วันที่เราประเมิน Baseline เป็นวันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งผลกระทบของการระบาดสายพันธุ์เดลต้ายังไม่รุนแรงเท่านี้ และความรุนแรงของสถานการณ์หรือจำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะยังไม่สูงเท่านี้ เพราะฉะนั้นมีโอกาสสูงที่การเติบโตของจีดีพีจะไม่เป็นไปตาม Base Line ซึ่งตอนนี้เรากำลังเร่งประเมินภาพใหม่เพื่อให้ออกมาชัดเจนว่าจะเป็นบวกหรือลบ หรือใกล้เส้นสีส้ม (กรณีระบาดยืดเยื้อกว่าคาด) มากหรือน้อยแค่ไหน และจะมาอัพเดตอีกครั้งหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ข้อมูลในช่วงที่ฝุ่นยังตลบ"