ดร.รักไทย ย้ำ 'ไฟเซอร์' ที่อเมริกาบริจาค 1.5 ล้านโดส ควรใช้ตามวัตถุประสงค์

ดร.รักไทย ย้ำ 'ไฟเซอร์' ที่อเมริกาบริจาค 1.5 ล้านโดส ควรใช้ตามวัตถุประสงค์

ผศ.ดร.รักไทย บูรพ์ภาค หนึ่งในคณะทำงานที่ประสานวัคซีน "ไฟเซอร์" 1.5 ล้านโดส ที่อเมริกาบริจาคให้ไทยแนะนำ ประเด็นเรื่องการจัดการฉีดวัควีนให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และเด็กอายุ 12-18 ปีก่อน

กรณีการจัดการวัคซีนไฟเซอร์ที่ประเทศไทยได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกามา 1.5 ล้านโดส ที่หลายคนกังวลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการจัดสรรการฉีดวัคซีนนั้นจะไปฉีดให้กลุ่มไหนก่อน

ประเด็นนี้ ผศ.ดร.รักไทย บูรพ์ภาค อนุกรรมการประจำคณะกรรมการพลังงาน วุฒิสภา  ประธานหลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ .ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) หนึ่งในคณะทำงานที่ประสานการบริจาควัคซีนในครั้งนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเนชั่นทีวี ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ส่วนตัวมีความกังวล เรื่องประเด็นการที่เป็นที่โต้แย้งของสังคมในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะการที่จะไม่ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน 

หากย้อนกลับไปถึงการประสานงานเพื่อนำวัคซีนไฟเซอร์มาให้ประเทศไทย ในตอนแรกก็ไม่ได้มีเงื่อนไข ทางคณะทำงานได้ประสานเรื่องข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีนในชุดดังกล่าวให้ระบุวัตถุประสงค์โดยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ก่อน จากนั้นจึงเป็นกลุ่มเด็กอายุ 12-18 ปี เนื่องจากเป็นยี่ห้อเดียวที่ฉีดให้เด็กได้ ก่อนจะเป็นกลุ่มต่างๆ ต่อไป 

"ถึงทางนั้นจะระบุมาให้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะเป็นผู้จัดสรรว่าจะใช้ประโยชน์จากวัคซีนชุดนี้อย่างไร" เขากล่าว

นอกจากการประสานงานเรื่องวัคซีนไฟเซอร์แล้ว ล่าสุด ผศ.ดร.รักไทย ยังเล่าถึงความคืบหน้าในการดำเนินการประสานการจัดหาวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

ผศ.ดร.รักไทย เผยว่า ขณะนี้ตนกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการประสานวัคซีน จอนห์สันแอนด์จอนห์สัน ให้กับประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีเรื่องเกี่ยวกับหลักศาสนาและความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง ประกอบกับ หากมองภาพรวมของวัควีนทั่วโลก จอนห์สันแอนด์จอนห์สันเป็นวัคซีนชุดที่ดีลได้เร็วที่สุด

โดยขณะนี้ พื้นที่ภาคใต้มีประชากรราว 3 ล้านคน ฉีดวัควีนไปแล้ว 2 แสนคน ทำให้การประสานงานเร่งด่วนเพื่อดีลวัคซีนชุดนี้มาให้ได้ 4 แสนโดส ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้

ส่วนแผนจัดการวัคซีนไฟเซอร์จากรัฐบาลนั้น ล่าสุด วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดการวัคซีนไฟเซอร์ว่า จะมุ่งเน้นให้บุคลากรทางการแพทย์ด้านหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 (ฉีดเป็นBooster dose จำนวน 1 เข็ม) ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุและโรคเรือรั้ง และผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียนนักศึกษา นักกีฬา นักการทูต

ส่วนพื้นที่เป้าหมาย คือ กทม. และพื้นที่ระบาดท่องเที่ยว อย่าง สมุทรสาคร ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา (มีการระบาดสายพันธุ์เบต้า)

  162587764256