สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 5-9 กรกฎาคม 2564

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 5-9 กรกฎาคม 2564

เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 15 เดือน ขณะที่หุ้นไทยปรับตัวลงหลังสถานการณ์โควิดในประเทศรุนแรงมากขึ้น

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทเผชิญแรงขายอย่างหนัก โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 15 เดือนที่ 32.73 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์โควิดในประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะทำให้ทางการไทยต้องยกระดับมาตรการควบคุมสถานการณ์และจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสแล้ว ความเสี่ยงจากโควิดที่ยืดเยื้อยังมีผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะที่เหลือของปีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีภาพการอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งต่างก็เผชิญกับวิกฤตโควิดกลายพันธุ์เช่นเดียวกัน

- ในวันศุกร์ (9 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.21 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 ก.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.40-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์และมาตรการสกัดโควิด 19 ในประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลสำรวจแนวโน้มภาคธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของนิวยอร์กเดือนก.ค. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคานำเข้าและส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีน อาทิ ข้อมูลการส่งออก ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และจีดีพีไตรมาส 2/64 ด้วยเช่นกัน  

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยร่วงลงแรงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,552.09 จุด ลดลง 1.67% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 81,282.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.22% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 3.27% มาปิดที่ 488.97 จุด  

- หุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ รับแรงหนุนจากมติครม. ที่มีการสั่งซื้อวัคซีนต้านโควิดเพิ่มเติม ก่อนจะร่วงลงแรงในเวลาต่อมา ตามแรงขายในหุ้นหลายกลุ่ม นำโดยกลุ่มธนาคารและพลังงาน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อการประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มข้นมากขึ้น ประกอบกับมีปัจจัยลบจากรายงานข่าวเกี่ยวกับแนวคิดการเก็บภาษีซื้อขายหุ้นจากนักลงทุน อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์

162583258954

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,530 และ 1,520 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,560 และ 1,570 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด 19 ตลอดจนความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนโควิด 19 ในประเทศและต่างประเทศ ประเด็นการเมืองภายในประเทศ ตลอดจนการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/64 ของบจ. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภค ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของยูโรโซน ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีน