ก.ล.ต. เตือน รายย่อย- บจ. ระวังการทำธุรกรรมเกี่ยวกับ 'สินทรัพย์ดิจิทัล'

ก.ล.ต. เตือน รายย่อย- บจ. ระวังการทำธุรกรรมเกี่ยวกับ 'สินทรัพย์ดิจิทัล'

ก.ล.ต. ขอให้ประชาชนและบริษัทจดทะเบียนใช้ความระมัดระวังในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เหตุมีความผันผวนและอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด และบริษัทจดทะเบียนยังมีหน้าที่ที่ควรคำนึงประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับควบคู่กับความเสี่ยงและผลกระทบ

ปัจจุบันเริ่มมีประชาชนและบริษัทจดทะเบียนสนใจทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล การรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยคริปโทเคอร์เรนซี รวมถึงการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ที่สามารถใช้งานได้ทันที (Utility Token พร้อมใช้) ของบริษัทจดทะเบียนสำหรับนำมาแลกสินค้าและบริการของบริษัท ตลอดจนการเผยแพร่ข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับการลงทุนหรือการชำระค่าสินค้าและบริการของบริษัทจดทะเบียน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ยังได้มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ โดยสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ถือเป็นเงินตราตามกฎหมาย ผู้ใช้หรือผู้รับจึงต้องยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งยังมีความเสี่ยงจากการสูญเสียมูลค่าหากถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ และการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน รวมทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทยังเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ผู้ลงทุนต้องเข้าใจความเสี่ยง ดังนั้น ธปท. จึงยังคงไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางการชำระค่าสินค้าและบริการ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้ ในกรณีของบริษัทจดทะเบียนที่มีแผนการลงทุนหรือทำธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยควรคำนึงผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับควบคู่กับความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และกรรมการและผู้บริหารของบริษัทต้องพิจารณาในเรื่องดังกล่าวด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทเป็นสำคัญ (fiduciary duties)

นอกจากนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทจดทะเบียนต้องมีการพิจารณาขนาดรายการและปฏิบัติตามที่ประกาศกำหนด โดยหากรายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการที่มีนัยสำคัญ มีหลักเกณฑ์กำหนดในเรื่องการได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และเปิดเผยข้อมูลสำคัญ

รวมทั้งปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วย กรรมการ ผู้บริหารและบริษัทจดทะเบียนควรใช้ความระมัดระวังในการเผยแพร่ข่าวหรือข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัท หากไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญ ในประการที่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์หรือการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน อาจเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมที่มีความผิดในเรื่องการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ได้