'สุดารัตน์' ประกาศทำภารกิจสุดท้ายการเมือง กำจัด 'เผด็จการ-อำนาจนิยม'

คุณหญิงสุดารัตน์ ประกาศใช้ประสบการณ์การเมือง 29 ปี สร้างพรรคไทยสร้างไทย เป็นมรดก-สร้างโอกาสให้ลูกหลาน ย้ำไม่หวังตำแหน่ง-อำนาจ ลั่นต้องกำจัดอำนาจเผด็จการ-ราชการรวมศูนย์
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำถึงภารกิจครั้งสำคัญนี้ว่า เราต้องนำพาประเทศให้ออกจากความเลวร้ายของ ‘รัฐราชการอำนาจนิยม’ที่กดทับโอกาสของประชาชนและสร้างความพังพินาศให้กับประเทศชาติจึงต้องมีพรรคการเมืองที่สามารถเป็น‘ทางออกของประเทศ’
คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวเปิดใจด้วยว่า จากการทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพของอำนาจนิยมเผด็จการ จนทำให้วิกฤติโควิดและวิกฤตเศรษฐกิจ สาหัสขึ้นทุกวัน ผู้คนอดอยาก ธุรกิจจำนวนมากต้องปิดตัว คนตกงานทวีจำนวนมากขึ้นทุกวัน ประชาชนอ่อนล้า อ่อนแรงเกินกว่าที่จะเดินสู้ต่อไป จากวิกฤตที่เกิดขึ้นหมอต้องเลือกว่าจะรักษาใครจะต้องชี้ให้ใครอยู่ให้ใครไปเพราะ ห้องไอซียูมีไม่เพียงพอผู้ป่วยจำนวนมากต้องนอนรอเตียง จนตายคาบ้าน ข่าวสะเทือนใจแบบนี้มีให้เราเห็นทุกวัน วัคซีนดีๆที่ป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ที่กำลังระบาดและคร่าชีวิตคนไทยจำนวนมากอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลก็ไม่ใส่ใจ ไม่ขวนขวายหามาให้ประชาชนแถมยังมีพฤติกรรมไม่สนับสนุนและขัดขวางเอกชนไม่ให้นำเข้าวัคซีนที่มีคุณภาพดีได้อย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ประชาชนเสี่ยงตายไปตามยถากรรม
“ดิฉันได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังทุกข์ยากทุกวัน ภาพที่ดิฉันเห็นมันเลวร้ายกว่าที่คิด มีพี่น้องมาร้องไห้กับดิฉันทุกวันหลายคนกังวลถึงชีวิตในวันพรุ่งนี้ว่าจะหารายได้จากไหนมาดูแลครอบครัว มองไปข้างหน้ามีแต่ความมืดมิดไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน บางคนถึงกับคิดสั้นหรือจบชีวิตลงเพราะไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่าประเทศไทยภายใต้ ‘รัฐราชการอำนาจนิยม’ได้เดินมาถึงจุดที่เป็นอันตรายที่สุดสำหรับประชาชนทั้งไร้ประสิทธิภาพ สร้างความขัดแย้ง บริหารจนสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดเลวร้ายจนทำให้ประชาชนจำนวนมากรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังคนรุ่นใหม่บางคนถึงกับประชดว่าไม่อยากอยู่ประเทศนี้อีกต่อไปซึ่งเราต้องรับฟังและเข้าใจพวกเขาและต้องทำให้พวกเขากลับมามีความหวังและเห็นอนาคตให้ได้ ตัวดิฉันเองก็มีลูกที่เพิ่งเรียนจบและอยู่ในวัยทำงานจึงเข้าใจดีว่าคนรุ่นใหม่เขาคิดและห่วงใยอนาคตของประเทศชาติของเขาเพียงไร.







