NNCL ปั้นธุรกิจใหม่ พัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม หนุนรายได้มั่นคง

NNCL ปั้นธุรกิจใหม่ พัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม หนุนรายได้มั่นคง

“นวนคร” ปั้นธุรกิจใหม่ พัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ย่านนิคมฯ นวนครโคราช คาดอีก 2-3 ปี เริ่มรับรู้รายได้ และ เตรียมจำหน่ายไฟเชิงพาณิชย์ โรงไฟฟ้าโคเจนฯ 30 MW ในนิคมฯโคราช มิ.ย.ปี 66

นายสุทธิพร จันทวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นวนคร จำกัด หรือ NNCL เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมบริเวณพื้นที่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดนครราชสีมา เพื่อต่อยอดกับธุรกิจหลักประกอบกับช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มั่นคงและกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจใหม่

โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้จัดตั้ง 4 บริษัทย่อยขึ้นมาเพื่อแบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ 1.ธุรกิจโรงแรม,2.ตลาด,3.หมู่บ้าน-อาคารพาณิชย์ และ4.หอพัก คาดว่าจะเริ่มเห็นการบันทึกรายได้จากธุรกิจใหม่เข้ามาในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

จากแผนธุรกิจดังกล่าว บริษัทจึงได้จัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีกจำนวน 81.5 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการต่างๆในพื้นที่ อาทิ ที่อยู่อาศัย,อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น,ตลาดสด-ตลาดนัด,สถานีบริการน้ำมัน และร้านค้าต่างๆ

โดยมองว่าพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพค่อนข้างสูง เนื่องจากติดกับพื้นที่นิคมฯโดยมีจำนวนโรงงานกว่า 25 โรงงาน มีจำนวนพนักงานคนไทยราว 11,321 คน และมีพนักงานชาวญี่ปุ่น 68 คน รวมถึงมีการขยายตัวของโรงงานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ยืนยันว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศกระทบต่อธุรกิจไม่มากนัก เนื่องจากโรงงานในนิคมฯทั้ง 2 แห่งยังไม่มีโรงงานไหนที่ถูกสั่งหยุดการดำเนินงาน แม้จะมีพนักงานบางส่วนที่ติดเชื้อบ้างราว 40 คน แต่ได้ถูกนำส่งไปโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามแล้ว ประกอบกับกิจกรรมการใช้ระบบสาธารณูปโภค เช่น น้ำและไฟฟ้าในนิคมฯยังปรับตัวเพิ่มขึ้นและการเจรจาซื้อที่ดินของลูกค้าที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยหนุนทำให้รายได้ของบริษัทยังเติบโตได้

ส่วนความคืบหน้าแผนการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ (MW) ในพื้นที่นิคมฯนวนคร นครราชสีมา ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างลงพื้นที่เพื่อดำเนินการจัดประชุมประชาพิจารณ์ครั้งที่ 2 ,เจรจาสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติและการจัดเตรียมเครื่องจักร รวมถึงจัดเตรียมข้อมูลและนำเสนอรายละเอียดโครงการเพื่อขอสนับสนุนสินเชื่อกับสถาบันการเงิน พร้อมคาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในช่วงกลางปี 66