กต. เปิดระเบียบเข้าประเทศ รับท่องเที่ยว 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์'

กต. เปิดระเบียบเข้าประเทศ รับท่องเที่ยว 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์'

โฆษก กต. เปิดระเบียบนักเดินทางเข้าประเทศ ภายใต้ 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์' ท่องเที่ยวแบบปลอดเชื้อโควิด-19

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ตามที่มีการประกาศข้อกำหนด ข้อปฏิบัติ และมาตรการป้องกันโรค แนบท้ายคำสั่ง ศบค. ที่ 7/2464 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2564 สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาไทย ในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว หรือนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) นั้น ข้อมูลของผู้เดินทางเข้าประเทศ ภายใต้นโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เและขั้นตอนการออกหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry : COE) จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศ/พื้นที่เป้าหมายเป็นเวลาอย่างน้อย 21 วัน

รายชื่อประเทศ/พื้นที่เป้าหมาย สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีทั้งสิ้น 66 ประเทศ 

2. มีหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งสามารถลงทะเบียนขอรับ COE จากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก ผ่านเว็บไซต์ coethailand.mfa.go.th

3. มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง

4. ต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ยืนยันการฉีดวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของไทย หรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือตามที่สาธารณสุขกำหนด ครบโดสแล้วอย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีน และเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครอง ให้แสดงใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ระยะเวลา ไม่เกิน 72 ชั่วโมง

5. มีหลักฐานการชำระค่าที่พักและค่าตรวจหาเชื้อโรคโดยวิธี RT-PCR โดยระบุเวลาการเข้าพักไม่น้อยกว่า 14 วัน กับโรงแรมหรือสถานที่พักที่จองผ่านระบบมาตรฐาน SHA+ ที่ขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด หรือจองที่พัก https://entrythailand.go.th/

โรงแรมมาตรฐาน SHA+ หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration Plus คือ โรงแรมที่มีบุคลากรผู้ให้บริการที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม อยู่ในฐานข้อมูลภายใต้ระบบ SHABA (SHA+ Booking Authentication) ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตร่วมกันพัฒนาขึ้น (โรงแรมจะนำข้อมูลการจองเข้าสู่ระบบ SHABA เพื่อออกเอกสารยืนยันที่พักในรูปแบบตามที่ปรากฏในจอภาพ)

หากเดินทางเข้าประเทศด้วยบัตรโดยสารเที่ยวเดียวหรือ มีบัตรโดยสารที่ไม่ระบุวันเดินทางกลับ จะต้องแสดงเอกสารยืนยันการชําระค่าที่พักไม่น้อยกว่า 14 คืน หรือในกรณีที่ต้องการพํานักในภูเก็ตไม่ถึง 14 วัน จะต้องมีบัตรโดยสารเที่ยวบินขาออก และเมื่อครบกำหนดพำนักจะต้องเดินทางออกจากประเทศไทย

6. มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือหลักประกันกรณีติดเชื้อโควิด-๑๙ ในวงเงินไม่น้อยกว่า100,000  ดอลลาร์ 

การดำเนินงานนี้ เพื่อรองรับนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กระทรวงการต่างประเทศได้ปรับปรุงระบบลงทะเบียน COE ออนไลน์สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลกเตรียมความพร้อมและเปิดระบบลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2564 เพื่อตรวจเอกสารล่วงหน้า 

ส่วนผู้เดินทางเข้า ภายใต้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับ COE ล่วงหน้าไม่เกิน 30 วันก่อนวันเดินทางเข้าประเทศไทยโดยมีขั้นตอนเช่นเดียวกับการขอ COE สำหรับผู้เดินทางที่เข้ารับการกักกันใน ASQ/ALQ ตามปกติล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนแล้วประมาณ 4,100  คน โดยกรมควบคุมโรคทำหน้าที่ตรวจเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีน (Certificate of Vaccination) 

ปัจจุบันสามารถตรวจอนุมัติไปแล้วกว่า 500 ราย และตั้งแต่เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก ได้พิจารณาออก COE สำหรับนักท่องเที่ยวโปรแกรมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยที่มีข้อกำหนดเพิ่มเติมให้ผู้ลงทะเบียนขอ COE ต้องแสดงหลักฐานการชำระค่าตรวจโควิดกับโรงแรม/ที่พัก (ค่าตรวจโควิด 3 ครั้ง ประมาณ 8,000 บาท) เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ยื่นเอกสารอื่นๆ ครบแล้ว และมีกำหนดเดินทางถึงไทยในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ทางททท. จะจัดให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ภูเก็ต ตามระยะเวลาที่พำนัก จึงสามารถยกเว้นเอกสารค่าตรวจโควิด-19