วัคซีน 'แอสตร้าเซนเนก้า' 1 ล้านโดสจาก 'ญี่ปุ่น' ถึง 'ไทย' 9 ก.ค.นี้

วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในกรุงเทพมหานคร นายนะชิดะ คะสุยะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำราชอาณาจักรไทย และ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ได้แลกเปลี่ยนหนังสือลงนามการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ของ "แอสตร้าเซนเนก้า" เป็นจำนวนประมาณ 1 ล้านโดส

นอกจากนี้ สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนโควิดครั้งนี้ ระบุว่า

1. ประเทศไทยกำลังประสบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 3 ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเกิดแหล่งการแพร่ระบาดใหม่ (คลัสเตอร์) ต่าง ๆ เช่น ในใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวได้

ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน มีสัดส่วนของจำนวนประชากรในประเทศไทยประมาณ 5% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (อ้างอิงจากจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2564)

ขณะเดียวกัน จำนวนวัคซีนที่ได้จัดเตรียมและวางแผนการผลิตขึ้นในประเทศแล้วรวม 70 ล้านโดส ยังคงไม่เพียงพอต่อจำนวนวัคซีนที่จำเป็นจะต้องจัดหาไว้ทั้งหมดประมาณ 100 ล้านโดส นอกจากนี้ การผลิตวัคซีนในประเทศยังคงมีความล่าช้า จึงทำให้การจัดหาวัคซีนโควิด-19 เป็นปัญหาที่สำคัญและเร่งด่วนอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาลไทย

2. การส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ผ่านการแลกเปลี่ยนหนังสือลงนามในครั้งนี้ มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยได้

โดยวัคซีนดังกล่าวจะถูกขนส่งทางอากาศและคาดว่าจะมาถึงประเทศไทยในวันที่ 9 ก.ค. 2564 (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย)

3. อนึ่ง เพื่อความสำเร็จในการดูแลสุขภาพแบบถ้วนหน้า ประเทศญี่ปุ่นได้คำนึงถึงความสำคัญในการเข้าถึงวัคซีนที่ผ่านการรับรองทั้งในด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย อย่างเท่าเทียมในทุก ๆ ภูมิภาคและทุก ๆ ประเทศ

อีกทั้งมุ่งมั่นที่จะมอบความช่วยเหลือเช่นนี้ต่อไปในอนาคต โดยร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้สิ้นสุดลงได้โดยเร็ว