สะท้อนมุมมอง 'หนึ่งศตวรรษก้าวหน้าเพื่อประชาชน' วาระครบรอบ 100 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีน
หลากหลายมุมมอง เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน
หนึ่งศตวรรษก้าวหน้าเพื่อประชาชน โชคชะตาร่วมเพื่อความสามัคคีอันยิ่งใหญ่
นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
ปีนี้เป็นปีครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฯพณฯ สี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่ของพรรคฯ
ได้กล่าวว่า “ไม่ว่าเดินไปไกลเท่าไร จงอย่าลืมเส้นทางที่ผ่านมา” เมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นได้ชัดว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือทางเลือกแห่งประวัติศาสตร์และทางเลือกของประชาชน
ประเทศจีนมีประวัติศาสตร์อารยธรรมโบราณที่งดงามและยาวนานถึง 5,000 ปี แต่ประวัติศาสตร์สมัยใหม่หลังปี ค.ศ. 1840 กลับโศกเศร้าและน่าอัปยศ การรุกรานและกลั่นแกล้งของมหาอำนาจตะวันตก รวมทั้งระบบศักดินาที่เสื่อมโทรมอย่างหนักและปิดประเทศ ทำให้ประเทศจีนแทบจะสิ้นชาติ ในเวลานั้น กลุ่มอำนาจทางการเมืองต่างๆ ในจีนผลัดกันเป็นผู้นำ ได้ทดลองการปกครองประเทศมาแล้วทุกรูปแบบ ทั้งระบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ระบบประธานาธิบดี ระบบรัฐสภา และระบบหลายพรรค เป็นต้น แต่ทั้งหมดล้วนไม่ได้ประสบความสำเร็จ
จนกระทั่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนก่อตั้งขึ้นมา ก็ได้ค้นพบเส้นทางแห่งการปฏิรูป การก่อสร้าง และการพัฒนาที่ผสมผสานทฤษฎีทันสมัยเข้ากับสภาพความเป็นจริงของประเทศหลังผ่านการทดลองอย่างต่อเนื่อง และได้ต่อสู้อย่างไม่หยุดหย่อนโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและมีการปฏิรูปตนเองอย่างต่อเนื่อง หลังจากความพยายามมาตลอดหนึ่งศตวรรษ ในที่สุดประชาชาติจีนก็ประสบความสำเร็จในการก้าวกระโดดครั้งประวัติศาสตร์ จาก “ลุกขึ้น” สู่ “รวยขึ้น” ไปจนถึง “แข็งแกร่งขึ้น”
ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประชาชาติจีนได้หลุดพ้นจากชะตากรรมอันตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ชนะจักรวรรดินิยมญี่ปุ่น สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นชาติอธิปไตยที่เข้มแข็งได้ด้วยตนเอง ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประชาชาติจีนได้หลุดพ้นจากความยากจนและอ่อนแอ เข้าสู่เส้นทางแห่งสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีน มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จนกลายเป็นเขตเศรษฐกิจอันดับสองของโลก ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประชาชาติจีนได้เปลี่ยนจากสถานะที่แทบจะ “ถูกตัดออกจากโลก” สู่การเข้าใกล้ศูนย์กลางของเวทีระหว่างประเทศ กลายเป็นพลังสำคัญในการผลักดันโลกหลายขั้วและเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์
เลขาธิการใหญ่ สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ ก็เพื่อแสวงหาความผาสุขของประชาชนจีน แสวงหาการเฟื่องฟูความยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน และแสวงหาความสามัคคีอันยิ่งใหญ่ให้กับโลก” ความก้าวหน้าของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงรากฐานของทิศทางและกระบวนการแห่งการพัฒนาของประเทศจีน ยังได้สร้างคุณูปการอย่างยิ่งใหญ่ต่ออารยธรรมและความก้าวหน้าของมวลมนุษย์อีกด้วย
ในด้านการบริหารประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ทดลองด้วยตนเองเพื่อขยายเส้นทางสำหรับประเทศกำลังพัฒนาสู่ความทันสมัย และยังได้เสนอทางเลือกใหม่กับชนชาติและประเทศต่างๆ ในโลกที่ต้องการเร่งการพัฒนาชาติควบคู่กับการรักษาอธิปไตยของตนเอง
ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ปัจจุบัน ประเทศจีนได้สร้างคุณูปการให้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกมากกว่า 30% ต่อปี การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศภายใต้ “สายแถบและเส้นทาง” มีมูลค่ากว่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนสะสมในอีก 10 ปีข้างหน้าจะทะลุ 22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จีนจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเสนอโอกาสความร่วมมือที่หาได้ยากสำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วย
ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาอย่างสันติ ยึดมั่นในความเสมอภาคระหว่างประเทศขนาดใหญ่และประเทศขนาดเล็ก ปฏิบัติตามหลักความร่วมมือพหุภาคีอย่างแท้จริง ยึดถือกลไกระหว่างประเทศที่มีองค์การสหประชาชาติเป็นแกนหลักและระเบียบระหว่างประเทศภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ จีนยินดีที่จะร่วมมือกับประเทศไทยและประชาคมโลก สร้างประชาคมร่วมอนาคตของมวลมนุษยชาติ
เมื่อทั่วโลกเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนทุกๆประเทศ โดยได้มอบวัคซีนมากกว่า 350 ล้านโดสแก่ประชาคมโลก มอบสิ่งของช่วยเหลือให้แก่ 150 กว่าประเทศและ 13 องค์การระหว่างประเทศ จัดหาหน้ากากอนามัยมากกว่า 2.8 แสนล้านชิ้น ชุด PPE กว่า 3.4 พันล้านชิ้น และชุดตรวจโควิดอีกกว่า 4 พันล้านกล่องให้กับทั่วโลก ในอีก 3 ปีข้างหน้า จีนยังจะเสนอความช่วยเหลือระหว่างประเทศด้วยงบ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการต่อสู้กับโรคระบาดและการฟื้นฟูหลังการระบาดของโควิด-19
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไว้ว่า จะสร้างสังคมอยู่ดีมีสุขอย่างรอบด้านเมื่อครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคในปี พ.ศ. 2564 และจะสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่เข้มแข็งอย่างรอบด้านเมื่อครบรอบ 100 ปีของการสถาปนาประเทศจีนใหม่ในปี พ.ศ. 2592 ในโอกาสครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป้าหมาย 100 ปีแรกของการสร้างสังคมอยู่ดีมีสุขอย่างรอบด้านกำลังจะสำเร็จตามกำหนด ประเทศจีนจะเข้าสู่ขั้นตอนใหม่แห่งการพัฒนา และมุ่งสู่เป้าหมาย 100 ปีที่สองต่อไป
พรรคที่ยิ่งใหญ่อายุหนึ่งร้อยปีกำลังรุ่งโรจน์เบ่งบานอย่างเต็มที่ เมื่อยืนบนจุดเริ่มต้นใหม่แห่งประวัติศาสตร์นั้น ภายใต้การนำของคณะกรรมการกลางพรรคฯ โดยมีสหาย สี จิ้นผิง เป็นแกนหลัก พรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชนจีนมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม และจะทำงานต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อบรรลุความฝันของประเทศจีนในการฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน จะสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีและสร้างประชาคมร่วมอนาคตของมวลมนุษยชาติ
พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำพาการพัฒนาจีน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
ขอแสดงความยินดีกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งจะมีอายุครบ 100 ปีใน 1 กรกฎาคม พ.ศ.2564 และก็แสดงความยินดีไม่เพียงแต่การดำรงอยู่ของพรรคคอมมิวนิสต์แต่ผลงานและความสำเร็จตลอดระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านมาของทั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประเทศจีน
ระยะเวลา 100 ปีต้องถือว่ายาวนานมาก 100 ปีที่ผ่านมาเราได้ทบทวนประวัติศาสตร์เราก็จะพบข้อเท็จจริงว่า โลกของเราผ่านทั้งสงครามโลกผ่านทางวิกฤตเศรษฐกิจวิกฤตทางการเงินหลายครั้ง เผชิญกับปัญหาความท้าทาย
อย่างเช่นเรื่องภาวะโลกร้อน ล่าสุดในตลอดระยะเวลาปีครึ่งที่ผ่านมาก็มีโรคระบาดที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ
เช่นเดียวกัน ท่ามกลางปัญหาอุปสรรคต่างๆ นี้ เราจะเห็นได้ว่าโลกของเราก็มีการพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก
ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศจีนในภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนใน 100 ปีที่ผ่านมานั้นเป็น
ความสำเร็จที่หาได้ยากมาก ประการแรกก็คือ จากประเทศซึ่งประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในภาวะของความขัดแย้งและความยากจน จะพัฒนาเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกในระยะเวลาอีกไม่นาน และไม่เพียงแต่เป็นเสียงขนาดใหญ่
เท่านั้นยังประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาในเรื่องของความยากจน เอาชนะปัญหาความยากจนและก็ได้ยกระดับความเป็นอยู่ของคนหลายล้านคนขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เราทราบดีว่าบทบาทของจีนนอกจากความสำเร็จภายในประเทศแล้วบทบาทในเวทีโลกก็จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางซึ่งจะครอบคลุมหลายทวีปของโลก เกี่ยวข้องกับประเทศ
ในโลกนี้กว่า 100 ประเทศ ตลอดจนบทบาทต่างๆ ของจีนในเวทีโลกขณะนี้คือความสำเร็จที่คงไม่มีใครมองไม่เห็นไม่มีใครที่จะปฏิเสธได้ ก็ต้องขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับทางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ที่สำคัญ สิ่งที่เราสังเกตเห็นหรือติดตามจากภายนอกก็คือพรรคการเมืองซึ่งได้ยึดมั่นและสืบสานอุดมการณ์มาแล้วก็มีการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ความเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา อย่างเห็นได้ว่าแนวคิดประธานดี สี จิ้นผิง เป็นส่วนสำคัญในการกำหนดหลักการและทิศทางของการนำพาตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประเทศจีน
100 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับหลายต่อหลายประเทศทั่วโลก ถึงความก้าวหน้าและ
ความสำเร็จ บทเรียนที่ได้มาก็ย่อมมีการเผชิญกับปัญหามากมาย และเป็นความสำเร็จที่ได้มาอย่างราบรื่นตลอดเวลา
46 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีนนั้น 46 ปี เพียงแค่ตัวเลขในเรื่องของทางกลาง ความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีนนั้นมีความลึกซึ้งมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 40 ปีเป็นอย่างมาก จีน-ไทยไม่ใช่อื่นไกล เราเป็นพี่น้องกัน
มีความใกล้ชิดทางด้านวัฒนธรรม
ในแง่ของมิติต่างๆ ของความสัมพันธ์นั้น จะเห็นด้วยว่าตั้งแต่ระดับของราชวงศ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จครบทุกมณฑลของประเทศจีนแล้ว ได้รับการถวายสมญานามเป็นมิตรที่ยิ่งใหญ่ของประเทศจีน
ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนไม่เพียงแต่ในแง่ของการไปมาหาสู่เท่านั้น แต่เป็นพี่น้องกัน ผมก็จำได้ว่าครั้งแรกที่ผมเดินทางไปประเทศจีนก็เป็นระยะเวลากว่า 20 แล้ว
ตอนนั้นก็เศรษฐกิจจีนยังไม่ได้เติบโตอย่างรวดเร็วเหมือนขณะนี้ สิ่งที่จำได้ก็คือว่าธุรกิจแรกๆ ที่เข้าไปลงทุนในประเทศจีนก็คือธุรกิจขนาดใหญ่ของไทย ซึ่งเข้าไปช่วยร่วมในการพัฒนาของประเทศจีน อันนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่บ่งบอกถึงความลึกซึ้งอันยาวนานระหว่างความสัมพันธ์ของสองประเทศ แน่นอนระหว่างรัฐต่อรัฐหลังจากที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตก็มีการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ในทุกๆ นิติมาตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 46 ปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม จำได้ว่าการจัดทำแผนกำหนดเป้าหมายร่วมก็มีการขยายให้ครอบคลุมไม่ใช่เฉพาะการค้าการลงทุน แต่จะครอบคลุมไปถึงเรื่องของการท่องเที่ยว แล้วก็การเปิดตลาดอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างกัน
ความริเริ่มในสมัยรัฐบาลของผม 2 เรื่องถือว่ามีความสำคัญมาก เรื่องแรกก็คือการริเริ่มโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมไทย-จีนและความจริงความตั้งใจในขณะนั้นก็คือต้องการเชื่อมอาเซียนทั้งหมดผ่านประเทศไทย ในช่วงนั้น เป็นช่วงที่ประเทศไทยเป็นประธานของอาเซียนแล้วก็ได้กำหนดวาระสำคัญแห่งความเชื่อมโยงและหลังจากนั้น ประมาณ 1-2 ปี เท่านั้น ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ประกาศข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สอดคล้องอย่างยิ่งกับความพยายามในการเชื่อมโยงในภูมิภาคนี้
นอกจากนั้น ในช่วงประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน เราได้สามารถทำให้อาเซียนมีข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่เจรจาทั้งหมด 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศจีนด้วย แล้วก็ได้มีการปรารภกันตั้งแต่ตอนนั้นว่า ASEAN +6 จะได้มีการจัดตั้งเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มาเป็นรูปเป็นร่างในรูป ซึ่งเป็นความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าการลงทุนที่ครอบคลุมและก็ใหญ่ที่สุดในโลก นี่คือความสำคัญ ความลึกซึ้ง ความยาวนาน และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมานั้นพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นได้มีระบบของการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทุกพรรคการเมืองในประเทศไทย พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รักษาความสัมพันธ์กับทุกพรรคการเมือง ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในทุกระดับ
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ใน 100 ปี
นายไพศาล พืชมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ได้สถาปนาครบรอบ 100 ปี ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้ ชาวพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนได้สร้างคุณูปการและความสำเร็จอันใหญ่หลวงมีผลกว้างไกลทั้งต่อประชาชนจีนและมวลมนุษย์ทั่วโลก ตลอดจนความสัมพันธ์ไทยจีนที่ยกระดับความร่วมมือในระดับที่สูงขึ้นและอำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศยิ่งกว่ายุคใดสมัยใดที่ผ่านมา
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนสถาปนาขึ้นในท่ามกลางสถานการณ์ที่ยุ่งยากที่สุดและลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน แต่ด้วยความเสียสละ กล้าหาญ และด้วยสติปัญญาความสามารถในการชี้ทิศนำทางที่ยิ่งใหญ่ถูกต้อง จึงสามารถนำพาประเทศจีนฝ่าความยากลำบากและทุกข์เข็ญนานัปการมาสู่ความสำเร็จยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบันนี้
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนประสบความสำเร็จในการปลดแอกประเทศจีนเก่าที่ล้าหลังและอ่อนแอจากการกดขี่ข่มเหงของนักล่าอาณานิคมและลัทธิทุนนิยมสามานย์ เอาชนะในสงครามต่อต้านญี่ปุ่นได้อย่างงดงามยิ่งใหญ่และมีเกียรติยิ่ง ประสบความสำเร็จในการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี และเข้าสู่สงครามกับความยากจน ขาดแคลน และล้าหลังอย่างทรหดอดทน ท่ามกลางการพัฒนาลิทธิมากซ์-เลนิน และระบอบสังคมนิยมแบบจีน ท่ามกลางการปฏิบัติที่เป็นจริง และนำพาประเทศจีนเข้าสู่ยุคทันสมัย สร้างสังคมใหม่ที่เป็นแบบจีน โดยมีอัตลักษณ์ของจีนที่มีความมั่งคั่งและทันสมัยอย่างต่อเนื่อง พลิกผันสถานะประเทศจีนก้าวเข้าสู่ความก้าวหน้าทันสมัยและมีบทบาทในสังคมโลกอย่างมีพลังมากขึ้นโดยลำดับนับแต่การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน สมัยที่ 18 เป็นต้นมา พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนได้สถาปนาการนำของประธานสี จิ้นผิง มหาบุรุษคนใหม่ของโลก ขึ้นเป็นผู้นำพรรคและประชาชาติจีน ได้อย่างถูกต้องและทันท่วงทีต่อการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของโลก
ความคิดริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ที่มีฐานะทางยุทธศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ได้ก่อตัวเป็นยุทธศาสตร์ระดับโลก คือ ข้อริเริ่มเส้นทางสายไหม
ในทางสากลความคิดริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางหรือยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหม ได้ก่อตัวเป็นกระแสใหญ่ของโลก ขับเคลื่อนสันติภาพ และการพัฒนาไปยังทุกปริมณฑลของโลก ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองและความเจริญก้าวหน้าที่อำนวยประโยชน์สุขต่อประชาชาติทั้งหลาย แผ่ขยายเกื้อกูลต่อมวลมนุษย์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทำให้กระแสความขัดแย้งและสงครามซึ่งนักล่าอาณานิคมได้ขับเคลื่อนครอบงำทั่วทั้งโลกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ต้องชะลอตัวลง และทำให้นักล่าอาณานิคมไม่สามารถกดขี่คมแหงหรือล่าอาณานิคมได้ตามอำเภอใจอีกต่อไป
ในสถานการณ์ที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงใหญ่ กระแสแห่งสันติภาพและการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยประเทศจีนที่มีคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนภายใต้การนำของประธาน สี จิ้นผิง กำลังเป็นกระแสหลักของโลก ในการหยุดยั้งมหันตภัยที่เกิดจากกระแสความขัดแย้งและสงครามที่นักล่าอาณานิคมกำลังดิ้นรนในเฮือกสุดท้าย
ความเจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง ความก้าวหน้าทันสมัย และความร่มเย็นเป็นสุขของประชาชาติจีนเป็นความจริงที่ประจักษ์ชัด ที่พี่น้องประชาชนชาวไต้หวันทั้งปวงเห็นเป็นที่ประจักษ์ บรรยากาศแห่งความต้องการที่จะรวมชาติกลับคืนสู่อ้อมอกมาตุภูมิได้ก่อเกิดเป็นกระแสใหญ่ในหมู่ชาวไต้หวันในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าไต้หวันจะกลับคืนสู่มาตุภูมิจีนในยุคสมัยที่ประธานสี จิ้นผิง เป็นผู้นำพรรคในอนาคตไม่ไกลจากนี้
การพัฒนาของประเทศจีนส่งเสริมความร่วมมือไทย-จีน
พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2464 ได้สถาปนาครบรอบ 100 ปี ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนได้นำพาการพัฒนาของประเทศ มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ยึดมั่นความคิดของผู้นำพรรคจากรุ่นสู่รุ่นในการพัฒนาประเทศ ซึ่งรวมถึงแนวคิดเหมาเจ๋อตงแนวคิด เติ้ง เสี่ยวผิง และแนวคิด สี จิ้นผิง
แนวคิด เหมา เจ๋อตง ได้นำพาประชาชนจีนสถาปนาประเทศของตัวเอง แนวคิดเติ้งเสี่ยวผิงได้นำพาการปฏิรูปและการเปิดเสรีของจีน และแนวคิดของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้นำพาประเทศจีนเข้าสู่ยุคใหม่ที่เป็นเอกภาพและแข็งแกร่งแนวคิดประชาคมแห่งโชคชะตาร่วมกันของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นแนวคิดหลักของจีนและเป็นแนวคิดหลักทางการทูตของจีนด้วยใน ณ ปัจจุบัน
จีนเป็นประเทศใหญ่ที่มีประชากร 1400 ล้านคน พรรคคอมมิวนิสต์จีนปกครองประเทศมาแล้วกว่า 70 ปีจนถึงปัจจุบันยังเป็นพรรคการเมืองที่ได้สนับสนุนจากประชาชน อย่างไรก็ตามน่าพอสรุปได้ว่า ไม่ว่าประเทศใหญ่หรือเล็ก ประชากรมากหรือน้อยพรรคการเมืองใดก็ตามที่เข้าบริหารประเทศ ควรมีคุณสมบัติสำคัญ อย่างน้อย 3 ประการ จึงจะสามารถรักษาความมีชีวิตชีวาไว้อย่างถาวรได้ กล่าวคือ เมื่ออำนาจได้มาจากประชาชน ต้องใช้อำนาจนั้นเพื่อรับใช้ประชาชนเมื่อประชาชนให้ความไว้วางใจ ต้องตอบสนองบุญคุณแก่ประชาชนผลประโยชน์ทุกอย่างที่เกิดจากนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรคต้องทำเพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง
จีนกับไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านฉันมิตรที่มีการไปมาหาสู่กันทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างต่อเนื่องและมีการประกาศความสัมพันธ์ทางการระหว่างผู้นำระดับสูงสุดของทั้งสองประเทศว่าเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ต่อกันและกัน ดังนั้น จีนกับไทยควรมีความร่วมมือด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างใกล้ชิดและมีความเข้มข้นเชิงคุณภาพให้มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความสำเร็จในอดีตและการแสวงหานวัตกรรมใหม่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐกับภาคการตลาด อาทิ การเสริมสร้างและสนับสนุนโอกาสโครงการ Private Partnership Program (PPP) ให้มากขึ้นเป็นต้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตลาดภายในกับการค้าระหว่างประเทศทั้งในเชิงทวิภาคีและพหุภาคีโดยต้องหากลไกให้ตลาดภายในของจีนช่วยส่งเสริมการค้าไทย-จีนมากยิ่งขึ้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนากับความมั่นคงปลอดภัย หรือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างยุทธศาสตร์และยุทธวิธี
พรรคคอมมิวนิสต์จีนขจัดความยากจนและนำจีนสู่ความเจริญรุ่งเรือง
ดร.วิรุฬห์ พิชัยวงศ์ภักดี รองผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน
การขจัดความยากจนเป็นความตั้งใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากที่ได้สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน พรรคคอมมิวนิสต์ได้มีการต่อสู้กับความยากจนเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจีน นับตั้งแต่ การประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 18 ประเทศจีนได้เคร่งครัดการทำงาน ขจัดความยากจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่จีนเริ่มการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีน ชาวจีนอาศัยในชนบทที่มีฐานะความยากจน 770 ล้านคนได้หลุดพ้นจากความยากจน เมื่อคำนวณตามเส้นแบ่งความยากจนในปัจจุบันของจีน ในช่วงเวลาเดียวกัน ประเทศจีนยังมีส่วนในการลดความยากจนทั่วโลกมากกว่า 70%
พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังมีนโยบาย 5 ระดับ (ระดับมณฑล เมือง อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน) ร่วมกันขจัดความยากจน ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานส่วนกลางต่างๆ ต่างขจัดความยากจนด้วยตนเอง ซึ่งตามสุภาษิตจีนได้กล่าวไว้คือ “เรื่องยากแต่เมื่อหัวหน้าลุยเองก็จะไม่ยาก” ผู้นำหมายเลขหนึ่งทั้งพรรคและรัฐบาลในอำเภอยากจนจะต้อง คงไว้ซึ่งเสถียรภาพ จะไม่พิจารณาเลื่อนตำแหน่งจนกว่าจะบรรลุภารกิจขจัดความยากจนในท้องถิ่น เพื่อประกันความต่อเนื่องของงานบรรเทาความยากจนและประกันให้แผนงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับการปฏิบัติตาม
เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนขจัดความยากจนอย่างจริงจัง เลขาธิการพรรคฯ ทั้ง 5 ระดับก็จะดำเนินการอย่างจริงจังตามการทำงานของสำนักงานบรรเทาความยากจนก็จะราบรื่นยิ่งขึ้น ในช่วงต่อสู้กับความยากจน มีเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองในพื้นที่ยากจนสุดขีดบางแห่ง ซึ่งโดยตำแหน่งเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับมณฑลแล้ว สามารถใช้สิทธิและสวัสดิการระดับรองผู้ว่าการมณฑลหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการได้ แต่ทางมณฑลไม่แบ่งงานในระดับนี้ให้ แต่ให้ทำงานประจำเมืองเพื่อบรรเทาความยากจนต่อไปโดยถือภารกิจขจัดความยากจนเป็นภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของพวกเขา
จนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ จีนได้จัดการประชุมใหญ่เพื่อยกย่องแบบอย่างการต่อสู้เพื่อขจัดความยากจนทั่วประเทศ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จีนได้ชัยชนะของการต่อสู้ความยากจน มีประชากรในชนบทจำนวน 98.99 ล้านคน ได้หลุดพ้นความยากจนทั้งหมดตามเกณฑ์ในปัจจุบัน ทั้ง 832 อำเภอ และ 12,800 หมู่บ้านยากจนได้หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว จีนประสบผลในการแก้ไขความยากจนส่วนภูมิภาค ได้บรรลุภาระหน้าที่อันยากลำบากของการขจัดความยากจนที่แท้จริง ถือเป็นความมหัศจรรย์ทางประวัติศาสตร์มนุษยชาติ