'พปชร.-พรรคร่วม' เกียร์ว่าง ปล่อย 'ประยุทธ์' ติดหล่ม 'โควิด'

'พปชร.-พรรคร่วม' เกียร์ว่าง ปล่อย 'ประยุทธ์' ติดหล่ม 'โควิด'

แทบไม่เห็น ส.ส.พลังประชารัฐ ปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ ประเด็นที่ถูกโจมตี ในการแก้ปัญหาโควิด เพราะรู้ดีว่ากระแสสังคมเป็นอย่างไร ขืนทำอะไรขัดความรู้สึกสังคม ไม่แคล้วแต้มทางการเมืองจะหล่นวูบ

ดูแล้วอาการน่าเป็นห่วงสำหรับพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. กับการบริหารสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่ต้องเจอกับเสียงวิพากย์วิจารณ์และต่อต้านอย่างหนัก

โดยเฉพาะกับมาตรการควบคุมโควิด-19 ล่าสุดที่ออกมากลางดึก คืนวันที่ 26 มิ..ที่ผ่านมาเพื่อล็อกแคมป์คนงานก่อสร้าง ในกทม.และปริมณฑล เพื่อสกัดเชื้อสายพันธ์ุเดลต้า เป็นที่เข้าใจได้ว่าจุดประสงค์เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาด

หากในความเป็นจริง การออกมาให้สัมภาษณ์ของพล..ประยุทธ์ ก่อนมาตรการจะมีผลในทางปฏิบัติ บรรดาแรงงาน ก็ชิงเก็บข้าวของย้ายออกจากแคมป์ กลายเป็นผึ้งแตกรังไปทุกทิศทุกทางเรียบร้อยแล้ว จนวิตกกันว่าเชื้อจะกระจายเป็นวงกว้างในไม่ช้า

ในทางกลับกันมาตรการที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร ที่ห้ามนั่งทานในร้าน ดูจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง แบบที่ไม่ทันตั้งตัว และที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักคือท่าทีในการให้สัมภาษณ์ของพล..ประยุทธ์ ที่หยอดมุข ชู2นิ้ว เฮฮา สวนทางกับสถานการณ์ที่เข้าขั้นวิกฤติ

จนนำมาซึ่งแฮชแท็กร้อนบนโลกออนไลน์ #ประยุทธ์ออกไป ว่อนไปทั่ว ซึ่งไม่แปลกใจ ถ้าแฮชแท็กทำนองนี้จะติดเทรนด์ในช่วงที่ม็อบชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น แต่ครั้งนี้เกิดจากผลพ่วงการบริหารงานที่ดูจะไม่ถูกใจประชาชนนั่นเอง จนอาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ใครหลายคนหมดความอดทน

สถานการณ์เช่นนี้ สั่นคลอนความเชื่อมั่นพล..ประยุทธ์ แบบที่อาจจะกู่ไม่กลับ ความนิยมสวนทางกับผู้ติดเชื้อที่ทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง การยึดอำนาจรัฐมนตรี ผ่านกฎหมาย 31 ฉบับ มาไว้กับตัว บริหารในรูปแบบซิงเกิลคอมมานด์ ดูจะมีประสิทธิภาพต่างจากที่ควรจะเป็น

รัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการคุมโควิด หลายคนถึงนาทีนี้คงโล่งใจ เพราะไม่ต้องร่วมแชร์หรือแบกรับแรงกดดันเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ เพราะตอนนี้ทุกแรงเสียดทานพุ่งตรงไปที่พล..ประยุทธ์ เพียงคนเดียว

ในทางการเมือง เรียกว่าเข้าทางพรรคร่วมรัฐบาล ก็คงจะไม่ผิด ในจังหวะที่แต่ละพรรคมองข้ามช็อต เตรียมตัวนับถอยหลังสู้ศึกเลือกตั้ง ระหว่างนี้จึงต้องถนอมเนื้อตัวไม่ให้บอบช้ำ รอเสียงระฆังดังเมื่อไหร่ ก็ถึงคิวกระโดดขึ้นเวทีหาเสียงได้ทันที

เช่นเดียวกับ พลังประชารัฐ ที่แทบไม่เห็น ..ของพรรค ออกโรงปกป้อง พล..ประยุทธ์ หรือช่วยชี้แจงใดๆ ในประเด็นที่ถูกโจมตี ในการแก้ปัญหาโควิด

สะท้อนชัดว่า พลังประชารัฐ ก็รู้ดีว่ากระแสสังคมที่มีต่อพล..ประยุทธ์ นั้นเป็นอย่างไร ขืนยืนกรานทำอะไรที่ขัดความรู้สึกสังคมออกไป ก็ไม่แคล้วที่แต้มทางการเมืองจะหล่นวูบ ตามไปด้วยการถอยห่างออกมา และยืนดูเฉยๆ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ไม่ต้องแปลกใจ การที่พล..ประยุทธ์ ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เกิดจากความรู้สึกสะสมของสังคม ในหลายสิ่งที่ทำมาก่อนหน้า ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายเรื่อง ขัดอารมณ์ของคนทั่วไปโดยเฉพาะคำถามถึงการจัดหาวัคซีน

และการบริหารจัดการโควิด

จนทำให้พล..ประยุทธ์ ติดหล่ม ในเส้นทางวิบาก ของการแก้วิกฤติโควิด ต่างจากอีกหลายคนที่เหมือนจะลอยตัว ไม่ต้องถูกเพ่งเล็ง หรือแบกรับความคาดหวังใดๆ จากสังคม

รวมถึงพล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพล..อนุพงษ์เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ไม่ได้เป็นคนตำบลกระสุนเหมือน พล..ประยุทธ์