'บิทคอยน์'ปรับตัวขึ้น-เคลื่อนไหวที่ 34,000 ดอลล์

การเคลื่อนไหวในแดนบวกของราคาบิทคอยน์มีขึ้นหลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า การที่รัฐสภาเอลซัลวาดอร์รับรองบิทคอยน์ให้เป็นเงินตราที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในประเทศนั้น อาจทำให้ภาคธนาคารเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น อีกทั้งอาจนำไปสู่การฟอกเงิน และการจัดหาเงินทุนเพื่อการก่อการร้าย

ฟิทช์ ระบุว่า กฎหมายที่รองรับบิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในเอลซาวาดอร์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ “จะเพิ่มความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ การเงิน และการดำเนินงานของสถาบันการเงิน ซึ่งรวมถึงแนวโน้มในการละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน และการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย”

ทั้งนี้ ฟิทช์ระบุว่า การใช้บิทคอยต์สำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งรวมถึงการกู้ยืมจากธนาคาร อาจนำไปสู่การเปิดช่องทางการรับ-ส่งบิทคอยต์ไปยังประเทศในอเมริกากลาง ซึ่งอาจเปิดทางให้กิจกรรมที่ผิดกฎหมายใช้ประโยชน์จากระบบการเงินของเอลซัลวาดอร์

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐสภาเอลซัลวาดอร์ลงมติผ่านร่างกฎหมายรับรองบิทคอยน์เป็นเงินตราชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในประเทศ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 62 เสียงจากทั้งหมด 84 เสียง โดยในร่างกฎหมายนี้จะไม่มีการจำกัดการทำธุรกรรมใดๆ ผู้ค้าสามารถตั้งราคาสินค้าเป็นบิทคอยน์ได้

นอกจากนี้ บิทคอยน์ยังสามารถนำมาชำระภาษีได้ และการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์จะไม่ถูกเก็บภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน ส่งผลให้เอลซัลวาดอร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการผ่านร่างกฎหมายในลักษณะนี้

ฟิทช์ระบุว่า เอลซัลวาดอร์จำเป็นต้องออกข้อกำหนดที่สอดคล้องกับมาตรฐานโลก ซึ่งกำหนดโดยคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force) เนื่องจาก “การใช้บิทคอยส์ที่ขาดความโปร่งใสอาจเพิ่มความเสี่ยงในการฟอกเงิน”

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แสดงความกังวลหลังจากรัฐสภาของเอลซัลวาดอร์มีมติรับรองบิทคอยน์ให้เป็นเงินตราที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในประเทศ โดยกังวลว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อโครงการให้ความช่วยเหลือเอลซัลวาดอร์ที่ไอเอ็มเอฟสนับสนุนอยู่ในขณะนี้ และวิตกว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสถานะการออกพันธบัตรของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ด้วย

“การรับรองให้บิทคอยน์เป็นเงินตราที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายได้ก่อให้เกิดความกังวลในหลายประเด็น รวมถึงประเด็นเศรษฐกิจมหภาค การเงิน และข้อกฎหมาย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ควรมีการวิเคราะห์อย่างระมัดระวัง ไอเอ็มเอฟกำลังจับตาสถานการณ์เหล่านี้อย่างใกล้ชิด และเราจะยังคงให้คำปรึกษากับหน่วยงานของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์” นายเกอร์รี ไรซ์ โฆษกไอเอ็มเอฟ กล่าว