หอการค้าคาดคุมเข้มแรงงาน-ร้านอาหาร ฉุดศก.สูญ 6 หมื่นล้าน

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) หอการค้าไทยขอรัฐออกมาตรการเยียวยาเข้มข้นถึงผู้ประกอบการ ย้ำต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดเร็วที่สุด

ประธานสภาหอการค้าไทย สนั่น อังอุบลกุล ระบุ สถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ยังไม่ลด โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดการ การที่รัฐบาลออกประกาศข้อกำหนดควบคุมสถานการณ์ให้กทม.ปริมณทลและ 4 จังหวัดภาคใต้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ก็เพื่อลดการเคลื่อนย้ายของประชาชน ซึ่งทางรัฐบาลคงได้หารือกับทางสาธารณสุขดีแล้ว โดยหอการค้าไทยมีความเป็นห่วงในเรื่องระบบสาธารณสุขควบคู่ไปกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ตอนนี้ยังไม่ฟื้น ขณะนี้ก็ต้องประคองกันไป

ทั้งนี้การประกาศยกระดับควบคุมพื้นที่ เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการสร้างความมั่นใจในการเปิดประเทศในอนาคต โดยเฉพาะการเปิดประเทศใน 120 วัน จำเป็นต้องคุมการระบาดที่ กทม ที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจให้ได้ก่อน เราเชื่อว่า การที่ต้อง balance ทั้งการคุมการระบาดและเดินหน้าเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

ส่วนการปิดแคมป์ก่อสร้างออกไป 1 เดือนก็ยังถือว่าไม่ดีเลย์ โครงการก่อนสร้างมากนัก ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ถ้ามีการคุมการระบาดไว้ 14 วัน ก็น่าจะคุมการระบาดได้โดยการจำกัดการเคลื่อนย้ายก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจไม่เสียหายมากเท่าการล็อคดาวน์ก่อนหน้านี้ อีกทั้งภาครัฐยังมีการเยียวยาให้ ผู้ประกอบการ อีกส่วนหนึ่ง ทั้งขยายเวลา และชดเชยค่าจ้างให้ รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลืออื่น และกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่ออกมาแล้ว ทั้งคนละครึ่ง และยิ่งใช้ยิ่งได้ จากการประเมินเบื้องต้นได้รับการตอบรับน้อยกว่าประมาณการณ์ไว้ ดังนั้นคงต้องมาดูว่าจะมีมาตรการไหนออกมาอีก เพราะที่สำคัญคือมาตรการเยียวยาประคองธุรกิจ

อย่างไรก็ตามการประกาศล็อคดาวน์ไม่ควรให้ระยะเวลานานเกินไป เพราะกระทบเศรษฐกิจยาวควรต้องมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลืออย่างเข้มข้นและตรงถึงผู้ประกอบการ การประกาศครั้งนี้ถึงแม้จะจำกัดบางพื้นที่ แต่หลายธุรกิจกระทบซ้ำ สะสมมาหลายระลอก โดยเฉพาะ ร้านอาหาร กลุ่มท่องเที่ยว และ กลุ่มผู้ใช้แรงงานในภาคบริการที่ อาจจะตกงานในอนาคตอีก เพราะกรุงเทพและปริมณฑล มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุด

สำหรับการประเมินความเสียหายเบื้องต้น หลังประกาศฉบับนี้ทาง ม.หอการค้าไทยประเมินไว้ว่าจะเสียหายเพิ่มจากเดิม ประมาณวันละ 1,000-2,000 ล้านบาท หรือ 30,000-60,000 ล้านบาท เพิ่มจากเดิมมากเพราะ ทางรัฐบาลเพิ่งคลายให้กลับมานั่งทานในร้านอาหารได้ 50% ไม่นานมาก ซึ่งจะกระทบจีดีพีประมาณ 0.1-0.3%