'กสิกรไทย' เพิ่มน้ำหนักลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง รับเศรษฐกิจโลกฟื้น

'กสิกรไทย' เพิ่มน้ำหนักลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง รับเศรษฐกิจโลกฟื้น

กสิกรไพรเวทแบงก์ ชี้ถึงรอบลุย สินทรัพย์เสี่ยง หลังเศรษฐกิจโลกฟื้น หนุนหุ้นไทย ยุโรปน่าสนใจมากขึ้น ชี้หากจัดการวัคซีน โควิด ได้ดี มีลุ้นหุ้นไทยเด้งต่อครึ่งปีหลัง

       นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า KBank Private Banking และ Lombard Odier กล่าวว่า สำหรับภาพการลงทุน กสิกรไพรเวทแบงก์ มองว่า แนวโน้มการลงทุนในระยะข้างหน้ามีทิศทางฟื้นตัว จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว จากไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ หรือโควิด-19 และส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น

       ดังนั้น กลุ่มที่กสิกรให้น้ำหนัก หรือ overweight ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คือการเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะในหุ้นยุโรป ที่ฟื้นตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ
      รวมไปถึง การหุ้นไปลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก alternative investment ทั้งในเรียลแอทเตรจ กองรีท ที่ปีก่อนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างมาก ที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีในปีนี้

      นอกจากนี้ การลงทุนแบบ Hedge Fund หรือ Structured Notes ที่สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง และให้ผลตอบแทนได้ในขณะที่ผลตอบแทนไซด์เวย์ได้ รวมถึงใช้กลุยทธ์ โดยขายตราสารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ ไปหาดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
      ขณะที่ กลุ่มที่ให้มีการลดน้ำหนักในการลงทุน เช่นกองทุนรวมตราสารหนี้ รวมถึงทองคำ พันธบัตรรัฐบาล ที่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยที่มีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึง ลดการลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์ เพราะเชื่อว่าราคาน่าจะผ่านจุดพีคไปแล้ว ดังนั้นมีโอกาสปรับตัวลดลงได้ในระยะข้างหน้า
      สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทย เชื่อว่า ตลาดเกิดใหม่ ยังฟื้นตัวช้า หรือ Laggard อีกทั้งราคายังไม่แพง ดังนั้นเชื่อว่า หากประเทศมีการจัดการวัคซีน และคุมโควิด-19 ได้ ก็เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดหุ้นที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ แต่ในระยะข้างหน้า โลกกำลังปรับตัวไปสู่นิวอีโคโนมี่

     ดังนั้นหากประเทศไทย หรือภาคธุรกิจไม่ปรับตัว ก็อาจไม่เป็นเป้าหมายของการลงทุนระยะยาวได้

       นางสาวศิริพร สุวรรณการ Managing Director Private Banking Financial Advisory Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า หุ้นไทยถือว่าเป็นหุ้นที่ได้เปรียบ จากการฟื้นตัว ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ

    รวมถึงประเทศเกิดใหม่ต่างๆ อีกทั้งนี้กรณีมีการคาดการณ์ว่า บริษัทจดทะเบียนไทย มีโอกาสสร้างรายได้และกำไรเติบโตได้ระดับ 100% ในปีนี้ ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ก็ยังเป็นความหวังในการลงทุนในครึ่งปีหลังนี้

      ด้านนายตรีพล ภูมิวสนะ Managing Director - Private Banking Business Head กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ 10 กลยุทธ์ ที่ต้องคำนึง ด้านแรกคือการลงทุนต่อเนื่องในสินทรัพย์เสี่ยง สอง การลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฏจักร และ Value ที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
       สาม การลงทุนในหุ้นยุโรป ที่มีศักยภาพเติบโตของกำไรสูง สี่ การลงทุนหาผลตอบแทนในพันธบัตรรัฐบาลจะปรับเพิ่มขึ้น ห้า การลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ดอกเบี้ยสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในจีน

       หก คงมุมมองบวกต่อค่าเงินหยวน และหาจังหวะเข้าซื้อค่าเงินยูโร เพราะคาดว่าหยวนจะแข็งค่าขึ้น เจ็ด คาดว่าดอลลาร์จะอ่อนค่า แปดราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เก้า มองหุ้นโครงสร้างพื้นฐานให้ผลตอบแทนโดดเด่น และสุดท้าย การลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน