‘ดาวโจนส์’ปิดบวกในกรอบแคบ 68 จุด

‘ดาวโจนส์’ปิดบวกในกรอบแคบ 68 จุด

‘ดาวโจนส์’ปิดตลาดวันอังคาร(22 มิ.ย.)ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ 68 จุด เหตุนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 68.61 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 33,945.58 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 21.65 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 4,246.44 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 111.79 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 14,253.27 จุด

ดัชนีดาวโจนส์พักฐาน หลังจากทะยานขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ ทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินเกิดความตื่นตระหนกจากการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 โดยเร็วกว่าที่คาดการณ์เดิมถึง 1 ปี นอกจากนี้ กรรมการเฟดยังได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดเตรียมชะลอการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น

ด้านนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า


"ดิฉันมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฟดอาจบรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อแตะระดับ 2% ในเวลาอีกไม่นาน ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถลดวงเงินคิวอีจากระดับ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ โดยเราอาจบรรลุเป้าในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า" นางดาลีกล่าว

ความเห็นของนางดาลีสอดคล้องกับนายพาวเวลและกรรมการเฟดรายอื่นที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังใกล้เข้าสู่ภาวะที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเฟด

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายรายในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ