สรท.หนุนเอฟทีเอแคนาดา ดันจีดีพีไทยเพิ่ม1.97%

สรท.หนุนเอฟทีเอแคนาดา ดันจีดีพีไทยเพิ่ม1.97%

สรท.หนุนเอฟทีเออาเซียน-แคนาดาเปิดประตูสู่ละตินอเมริกา ด้าน กรมเจรจาฯ คาดดันจีดีพีไทยเพิ่ม 1.97% เร่งหารือประเด็น แรงงาน สิ่งแวดล้อม ก่อนชงรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนไฟเขียวก.ย.นี้

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า เขตการค้าเสรีอาเซียน - แคนาดา จะส่งผลดีกับไทย แม้ว่าการค้าระหว่างไทยและแคนาดามีมูลค่าการค้าประมาณ 0.6 % ของการค้าไทย โดยการค้าของแคนนาดาส่วนใหญ่จะค้าขายกับประเทศสหรัฐ ละตินอเมริกา

โดยแคนาดามีความเชี่ยวชาญในด้านการให้คำปรึกษา หรือเซอร์วิส เซ็คเตอร์ เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม การเงิน เป็นต้น หากจะมีการทำเอฟทีเอจริงประโยชน์ที่จะได้รับก็น่าจะเป็นเรื่องของการเปิดประตูการค้าไปสู่กลุ่มประเทศละตินอเมริกา เช่น เม็กซิโก อาเจนตินา ซึ่งไทยเองไม่มีเอฟทีเอกับประเทศเหล่านี้มีเพียงเอฟทีเอไทยกับเปรู

นอกจากนี้การที่จะทำเอฟทีเอกับแคนาดาก็ต้องพิจารณาถึงประเด็นต่างในการเจรจาทั้งเรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตร UPOV ทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหวเหมือนกรณีซีพีทีพีพี ดังนั้นจะต้องศึกษาในรายละเอียดอย่างรอบคอบ

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯได้ร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน - แคนาดา เพื่อหารือถึงขอบเขตการเจรจาจัดทำเอฟทีเอ อาเซียน-แคนาดา ที่มีความคืบหน้าอย่างมาก คงเหลือประเด็นการค้าใหม่ๆ เช่น แรงงาน สิ่งแวดล้อม รัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่อาเซียนยังไม่เคยมีอยู่ในเอฟทีเอที่ผ่านมา โดยที่ประชุมจะเร่งหาทางออกร่วมกันโดยเร็ว เพื่อเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน - แคนาดา ในเดือนก.ย.นี้ เพื่อให้เปิดการเจรจาเอฟทีเอระหว่างกันภายในปีนี้

“แคนาดาก็มีท่าทีที่ต้องการทำเอฟทีเอกับอาเซียน มีเพียงบางประเด็นที่ต้องหารือกันเพื่อได้ผลสรุปที่ตรงกัน เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา การคุ้มครองพันธุ์พืช การเข้าถึงยา เพียงแต่แคนาดาไม่เข้มเหมือนอียู ”

ทั้งนี้ จากการศึกษา พบว่า เอฟทีเออาเซียน-แคนาดา พบว่า จะส่งผลให้จีดีพีของอาเซียนเพิ่มขึ้น 1.6 % หรือเพิ่มขึ้น 39,361 ล้านดอลลาร์ โดยในส่วนของไทยจะทำให้จีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.97% หรือเพิ่มขึ้น 7,967 ล้านดอลลาร์ แคนาดาเพิ่มขึ้น 5,104 ล้านดอลลาร์หรือเพิ่มขึ้น 0.3% และภายใน 7 ปี มูลค่าการค้า ระหว่างอาเซียนกับแคนาดา จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 11,000 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าการค้าในปัจจุบันที่ประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์ สินค้าที่ส่งออกสำคัญของไทย คืออาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น จะได้ประโยชน์เพิ่ม