ท่องเที่ยวฯกางไทม์ไลน์ใหม่ ‘Reopen Thailand’ รับนโยบาย 'บิ๊กตู่' เปิดประเทศภายใน 120 วัน!

ท่องเที่ยวฯกางไทม์ไลน์ใหม่ ‘Reopen Thailand’  รับนโยบาย 'บิ๊กตู่' เปิดประเทศภายใน 120 วัน!

ก.ท่องเที่ยวฯ-ททท.แถลงไทม์ไลน์ใหม่รับนโยบาย “บิ๊กตู่” เปิดทั้งประเทศภายใน 120 วัน หลังที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่อนุมัติเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” แน่นอน ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ พร้อมเห็นชอบในหลักการเปิดพื้นที่ 3 เกาะดังสุราษฎร์ฯ สมุย-พะงัน-เต่า เริ่ม 15 ก.ค.นี้

วานนี้ (18 มิ.ย.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายในงานแถลงข่าว “เดินหน้าเตรียมพร้อมเปิดประเทศ Moving Forward to Reopen Thailand” ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ว่ามีนโยบายเปิดประเทศไทยทั้งประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวภายใน 120 วัน เชื่อว่าเป็นเพราะนายกฯมั่นใจแล้วว่าภายในเดือน ต.ค.นี้ คนไทย 50 ล้านคนจะต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกแล้ว ไม่เช่นนั้นจะเปิดประเทศทั้งประเทศไม่ได้ แต่เปิดได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า แค่ฉีดเข็มแรกร่างกายก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ถึง 80% ภายใน 14 วัน และถ้าเป็นวัคซีนซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม ระยะการฉีดเข็มแรกและเข็มที่ 2 ใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์

ทั้งนี้ขอขยายความเพิ่มเติมว่า จากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายกฯบอกว่าแนวทางการเปิดประเทศทั้งประเทศภายใน 120 วัน ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถมาเที่ยวประเทศไทยได้แบบไม่กักตัว หมายความว่าจาก 77 จังหวัดในไทย หากจังหวัดไหนพร้อม พบการติดเชื้อน้อย มีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันไม่เกิน 20-30 คน สามารถเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวได้เลย เช่น กรุงเทพฯ เมื่อถึงเดือน ต.ค.นี้ตามไทม์ไลน์ใหม่ หากพบว่ายังมีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในกรุงเทพฯที่ระดับ 500-600 คน นายกฯบอกว่ายังไม่ต้องเปิดก็ได้

“นายกฯบอกว่าให้ไปดูว่าจังหวัดไหนมีความพร้อม ถึงค่อยเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวตามไทม์ไลน์ใหม่ภายใน 120 วัน และจากการประกาศดังกล่าวของนายกฯ ได้ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีมากกว่า 10 สาขาอาชีพ รู้สึกเหมือนได้น้ำทิพย์ มาต่อชีวิตของเขาในขณะที่ไม่มีความหวัง เหมือนเดินอยู่ในถ้ำมืด แต่พอนายกฯประกาศออกมา เหมือนมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ว่าเห็นทิศทางการเปิดประเทศชัดเจนมากยิ่งขึ้น”

รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ จะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบความพร้อมขั้นสุดท้ายของโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก่อนที่นายกฯและคณะจะเดินทางไปภูเก็ตวันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางเข้าภูเก็ตด้วยตัวเอง

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเสริมว่า หลังจากนายกฯออกแถลงการณ์เปิดประเทศทั้งประเทศภายใน 120 วัน ทางนายพิพัฒน์ได้สั่งการให้ ททท.ปรับเร่งไทม์ไลน์การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวให้เร็วขึ้น จากเดิมก่อนหน้านี้ได้ประกาศโรดแมพไปว่าจะมีพื้นที่นำร่องในปี 2564 เพียง 10 พื้นที่ ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย-พะงัน-เต่า) ชลบุรี (พัทยา) เชียงใหม่ หัวหิน ชะอำ บุรีรัมย์ และกรุงเทพฯ ก่อนเปิดทั้งประเทศในไตรมาส 1 ปี 2565 โดยในช่วงแรกจะเริ่มจากการเปิดพื้นที่เกาะก่อน ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะเร่งให้เร็วขึ้นสอดรับกับนโยบายใหม่ของนายกฯ

และจากผลการประชุม ศบค.วานนี้ (18 มิ.ย.) ได้อนุมัติตามข้อเสนอให้เปิดโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่เดินทางจากต่างประเทศซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เข้ามาเที่ยวภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ จะมีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งวันที่ 22 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา

สำหรับผู้เดินทางเข้ามาภูเก็ต มีเงื่อนไขหลักๆ 3 ชั้น ได้แก่ 1.ต้องมาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ-ปานกลาง 2.ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 14 วันขึ้นไป และ 3.ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มาแล้ว เหมือนใส่ชุดป้องกันมาแล้ว 3 ชั้น และเมื่อถึงไทยต้องถูกตรวจหาเชื้อซ้ำอีก และเข้าพักโรงแรมที่ได้มาตรฐานการท่องเที่ยวและสุขอนามัย Sha Plus ซึ่งมีพนักงานโรงแรมได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่า 70% เท่านั้น โดยทางนายพิพัฒน์ รมว.การท่องเที่ยวฯต้องการให้ฉีดวัคซีนแก่พนักงานครบ 100% เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ให้บริการและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต้องอยู่ภูเก็ตครบ 14 คืนก่อน ถึงจะสามารถเดินทางไปเที่ยวพื้นที่อื่นๆ ในไทยได้  ซึ่งกรณีอยู่ 14 วันจะถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวม 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 0 ทันทีที่เดินทางมาถึง, วันที่ 6 หรือ 7 และวันที่ 12 หรือ 13 โดย ททท.กำลังหารือกันว่ารัฐจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อให้ได้หรือไม่ ส่วนนักท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ครบ 14 คืนแล้วต้องการเดินทางกลับประเทศต้นทาง หรือไปประเทศที่ 3 ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นเที่ยวบินตรงออกนอกประเทศจากสนามบินภูเก็ตเท่านั้น

สำหรับขอบเขตของคำว่าท่องเที่ยวภายในจังหวัดภูเก็ตคือ สามารถนั่งเรือไปเที่ยวเกาะในพื้นที่ภูเก็ตได้ เช่น เกาะเฮ และเกาะไม้ท่อน แต่ยังไม่สามารถนั่งเรือไปยังเกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล เพราะอยู่ใน จ.กระบี่ รวมถึงพื้นที่เขาหลัก เกาะยาว ซึ่งอยู่ใน จ.พังงา โดยจะสามารถออกไปเที่ยวพื้นที่นอกภูเก็ตได้ก็ต่อเมื่อนักท่องเที่ยวอยู่ครบ 14 คืนก่อน

นายยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ศบค.ยังได้เห็นชอบในหลักการโครงการ "สมุย พลัส" ให้พื้นที่ 3 เกาะในสุราษฎร์ธานี ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยให้ท่องเที่ยวในเส้นทางที่กำหนด (Sealed Route) ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.นี้เป็นต้นไป รูปแบบการท่องเที่ยวจะต่างจากภูเก็ต โดยใน 3 คืนแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง ยังต้องอยู่ภายในพื้นที่โรงแรมเท่านั้น แต่สามารถออกนอกห้องพักได้ จากนั้นคืนที่ 4-7 สามารถออกท่องเที่ยวได้ตามเส้นทาง Sealed Routes ที่กำหนด แต่ต้องอยู่ภายในพื้นที่เกาะสมุย และตั้งแต่คืนที่ 8-14 ถึงจะสามารถนั่งเรือข้ามไปเที่ยวบนเกาะพะงันและเกาะเต่าได้ กระทั่งครบ 14 คืน จึงจะออกไปเที่ยวพื้นที่อื่นๆ ในไทยได้ โดยต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวม 3 ครั้งเช่นเดียวกับกรณีนักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม ตามไทม์ไลน์โรดแมพเปิดประเทศใหม่ที่เพิ่งปรับใหม่ ได้ปรับให้มีเส้นทางท่องเที่ยวส่วนขยาย (Extension) เชื่อมโยงจากภูเก็ต 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง Sealed Route สู่ 3 พื้นที่ในกระบี่ มีเกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล และอีกเส้นทางคือเขาหลัก และเกาะยาว ในพังงา เริ่มได้ในเดือน ส.ค.นี้

ส่วนเดือน ก.ย.นี้ จะมีพื้นที่อื่นๆ อีก 3 แห่ง ประกอบด้วยเชียงใหม่ ครอบคลุม อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง และ อ.ดอยเต่า, ชลบุรี ครอบคลุมเมืองพัทยา อ.บางละมุง และ อ.สัตหีบ และบุรีรัมย์ ครอบคลุม อ.เมืองบุรีรัมย์ และสนามช้างอารีนา เพื่อรับการแข่งขันโมโตจีพีในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้

ขณะที่เดือน ต..นี้ จะเปิดกรุงเทพฯ ชะอำ และหัวหินต่อไป รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ที่มีความพร้อมในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

162407626787

162407626795