เคาท์ดาวน์ 120 วัน ‘เปิดประเทศ’

เคาท์ดาวน์ 120 วัน ‘เปิดประเทศ’

ประเทศไทย เริ่มนับถอยหลัง 120 วัน "เปิดประเทศ" ถือเป็นบทพิสูจน์ฝีมือรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์" ว่าจะทำได้จริงตามที่ประกาศไว้หรือไม่ ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากภาคประชาชนเพียงเท่านั้น แต่รวมถึง "ความเป็นหนึ่งเดียว" ของภาครัฐด้วย

แผนเปิดประเทศใน 120 วัน ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศออกมา เป็นการเดิมพันครั้งสำคัญ และถือเป็นการเปิดหน้าสู้กับสงครามโรคอย่างจริงจัง แม้ยังมีความเสี่ยงระหว่างทางอีกมากมาย แต่วิกฤติโควิดครั้งนี้กัดกินประเทศมายาวนานกว่าปีครึ่ง ผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตมากมาย ธุรกิจปิดกิจการ

ที่เหลืออยู่ล้วนมีเพียงลมหายใจที่แผ่วเบา ท่ามกลางการแก้สถานการณ์ของรัฐที่เป็นไปอย่างทุลักทุเล สร้างความสับสน โดยเฉพาะแผนการบริหารจัดการวัคซีนซึ่งเป็นเพียง "ทางรอดเดียว" ที่ประเทศจะก้าวข้ามผ่านวิกฤติอันยากลำบากนี้ไปได้ 

แต่ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐ กลับบริหารจัดการกันไปคนละทิศคนละทาง มีเพียงถ้อยแถลงตอกย้ำซ้ำ ๆ ชวนประชาชนให้รีบฉีดวัคซีน แต่จำนวนวัคซีนที่เข้ามากลับไม่เพียงพอ

แม้วันนี้ดูเหมือน แผนบริหารจัดการจากภาคส่วนต่าง ๆ จะเริ่มประสานสอดรับอย่างไร้รอยต่อ แต่ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน เป็นสิ่งที่คุ้นชินจากการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ใครจะรู้ว่าอาจมีตัวแปรอะไร เข้ามาแทรกสกัดแผนปูพรมฉีดวัคซีนให้หยุดชะงัก

ก่อนจะเคาท์ดาวน์เปิดประเทศใน 120 วัน อีกไม่กี่ 10 วัน โมเดล "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" จะเปิดปฐมฤกษ์พิสูจน์ฝีมือรัฐบาลก่อนในวันที่ 1 ก.ค.นี้ รัฐบาลคาดหวังไว้สูง เพราะอยากให้เป็นโมเดลต้นแบบ ก่อนขยายไปยังจังหวัดท่องเที่ยวเป้าหมายอื่น ๆ และยังต้องการให้ภูเก็ต โมเดล เป็นเหมือนสถานที่นัดพบนักธุรกิจ หรือพันธมิตรการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศด้วย

ถ้า ภูเก็ต โมเดล สำเร็จอย่างสวยงามจะยิ่งสร้างความมั่นใจในการเปิดอีก 75 จังหวัดทั่วประเทศในกลางเดือน ต.ค. อย่างที่รัฐบาลประกาศเดิมพันไว้ 

แผนเปิดประเทศครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ก่อนจะถึงวันนั้นคงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและภาคธุรกิจอย่างเต็มที่ จากนี้ไปแผนปูพรมฉีดวัคซีนต้องเรียบร้อย ราบรื่น หากจะมีเหตุขัดข้องเรื่องการส่งมอบวัคซีน นั่นเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการ และมีแผนรองรับ ต้องไม่ให้เหตุผลการส่งมอบวัคซีนล่าช้าจากผู้ผลิต เป็นข้ออ้างให้รัฐบาลเลื่อนแผนการฉีด หรือปล่อยให้เกิดช่องว่างการเข้าถึงวัคซีนในกลุ่มประชาชนไม่ว่ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง 

จากนี้ ประชาชนทั่วประเทศ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วและเท่าเทียม แผนต้องเป็นแผน อย่าให้เกิดดราม่า เสียงสะท้อนถึงความสับสนอลหม่านเหมือนที่ผ่านมา รัฐบาลต้องเริ่มเคาท์ดาวน์ตัวเอง สร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจ ประชาชนให้ได้ ก่อนเปิดและหลังเปิดประเทศ คือ ห้วงเวลาสำคัญทุกภาคส่วนต้องร่วมมือ

อย่าเพียงเรียกร้องขอให้ประชาชนร่วมมือ รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลรวมถึงภาคส่วนการเมืองอื่น ๆ ต่างหาก ที่ต้องลดผลประโยชน์ส่วนตัวลงบ้าง หันมาสบตาจับมือกันอย่างจริงจัง ให้แผนเปิดประเทศไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ แต่เป็นแผนเริ่มเดินหน้าฟื้นประเทศอย่างแข็งแกร่ง มีกำแพงแห่งความร่วมมือ ต่อสู้กับสงครามโรคที่ยังไม่มีจุดสิ้นสุด