เอกชนจี้รัฐเร่งฉีดวัคซีนฟื้นเศรษฐกิจ

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) ส.อ.ท. จี้รัฐบาลเร่งบริหารจัดการวัคซีนฉีดประชาชนโดยเร็ว สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูง พร้อมร่วมมือภาครัฐคุมเข้มมาตรการเข้มป้องกัน-ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงงาน

สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุ จากการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลหลายแห่งและจุดฉีดต่างๆ และยังมีความล่าช้า รัฐบาลต้องเร่งบริหารจัดการ กระจายวัคซีนและฉีดให้ประชาชนโดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบกับแผนการจัดหาวัคซีนภาพรวมที่รัฐวางเป้าหมายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชน รวมถึงจำนวนวัคซีนทางเลือกที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้โดยเร็ว

ด้านภาคอุตสาหกรรมเอกชนอยากให้ภาครัฐเร่งจัดสรรวัคซีนตาม ม.33 และเร่งฉีดให้ได้โดยด่วน เพราะที่ผ่านมายังได้ไม่ครบ 1 ล้านโดส หากดำเนินการล่าช้าก็จะเกิดปัญหามากยิ่งขึ้น กลับกันหากดำเนินการได้อย่างรวดเร็วก็จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีความปลอดภัย มีความเข้มแข็งกลับมาได้เร็วขึ้น

ทั้งนี้ การปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศ ภาคเอกชนกำลังติดตามผลการของกระจายและการฉีดวัคซีนจะมีความคืบหน้ามากน้อยแค่ไหน โดยขณะนี้ยังไม่ได้สร้างความมั่นใจเพราะอัตราการติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าวันละ 2,000 คน

สำหรับวัคซีนชิโนฟาร์ม ที่ ส.อ.ท.ประสานผ่านทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในล็อตแรกจะได้วัคซันฉีดให้กับแรงงาน 300,000 คน จะเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะทยอยฉีดกับโรงพยาบาลที่ประสานความร่วมมือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาภาระการฉีดวัคซีนให้กับรัฐบาล ทั้งนี้มองว่าเป็นแนวทางที่ดีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนลงทะเบียนจองวัคซีนได้โดยทั่วไปเพื่อนำไปฉีดให้กับบุคลากร พนักงานในบริษัทของตนเอง ตามเจตนารมย์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่เน้นย้ำว่าวัคซีนที่ได้ไปต้องไม่นำไปจำหน่าย

ด้านมาตรการเข้มป้องกัน-ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ทุกโรงงานดำเนินการตรวจสอบประเมินตนเองเบื้องตนของแต่ละโรงงานในการเช็คลิสด้านความปลอดภัย ซึ่งหากไม่ผ่านการประเมินสภาอุตสาหกรรมได้ทำความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงสาธารณสุขจัดอบรมเทรนนิ่งให้เพื่อทำให้ผ่านมาตรฐาน