ตลาดไอพีโออาเซียนร้อนแรง‘ไทยโดดเด่นสุด’

ตลาดไอพีโออาเซียนร้อนแรง‘ไทยโดดเด่นสุด’

นักวิเคราะห์ต่างแดนมอง ปีนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะทำไอพีโอทุบสถิติ ข้อมูลชี้การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดดเด่นมากในบรรดาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานอ้างคำพูดของเคน ฟง หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดทุนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกบริษัทวิเคราะห์ดีลลอจิก ระบุ "ไทยกำลังทำได้ดีมาก สานต่อเทรนด์ดีๆ ต่อเนื่องจากปีก่อน

ข้อมูลจากดีลลอจิกชี้ว่า นับถึงขณะนี้ไทยมีการนำหุ้นออกขายต่อสาธารณะครั้งแรก (ไอพีโอ) รวมแล้ว 2.92 พันล้านดอลลาร์ ฟงยืนยันว่ายังไม่มีเหตุผลใดที่จะมาหยุดยั้งกระแสนี้ได้ ขณะนี้ตลาดไอพีโอไทยดูเหมือน “จะเดินหน้าเป็นปีที่สร้างสถิติ” โดยปกติแต่ละปีไทยจะมีบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ราว 30 บริษัท และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

“ประมาณ 70-80% ของการทำไอพีโอเกิดขึ้นจากไตรมาส 4 และ ไตรมาส 3 ของทุกปี” นักวิเคราะห์กล่าว 

สำหรับปี 2564 นับถึงขณะนี้มีบริษัททำไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว 14 บริษัท ราวครึ่งหนึ่งของตัวเลขเฉลี่ยรายปี เม็ดเงินจากการทำไอพีโอสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายปีที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนประเทศอื่นในภูมิภาคร ฟิลิปปินส์ก็มีผลงานตลาดไอพีโอค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากบริษัทอาหารและเครื่องดื่มMonde Nissin เข้าจดทะเบียน ที่ฟงเรียกว่า เป็นการทำไอพีโอครั้งใหญ่สุดของฟิลิปปินส์ ขณะที่บรรยากาศการจดทะเบียนในมาเลเซียและสิงคโปร์ค่อนข้างเงียบเหงา

การระบาดของโควิด-19 สร้างความเสียหายให้กับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่รัฐบาลพยายามหาวัคซีนมาให้เพียงพอฉีดประชาชน แต่ฟงกล่าวว่าผลกระทบจากโควิดที่ผุดขึ้นอีกครั้ง“ไม่ปรากฏให้เห็นจริงในตลาดไอพีโอ จากข้อมูลของเราผมไม่เห็นว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อ่อนแอเกินไป เราไปถึงผลปฏิบัติการหลังทำไอพีโอด้วยและแท้จริงแล้วประเทศส่วนใหญ่ทำไอพีโอแรงมาก"

ฟงยกตัวอย่างการนำหุ้นออกขายต่อสาธารณะสองรายการของไทย คือโออาร์ที่ขายหุ้นในตลาดครั้งแรกเมื่อเดือนก .พ. วันแรกราคาพุ่งขึ้นมา 62.5% หรือเงินติดล้อที่พุ่งขึ้นราว 25% จากราคาไอพีโอ

ทั้งคู่เป็น 2 ใน 3 บริษัทที่จดทะเบียนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปีนี้ แต่ละรายมีมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งในช่วงที่ตลาดกำลังร้อนแรง ฟงกล่าวว่า “การทำไอพีโอขนาดใหญ่แบบนี้ก็ช่วยกระตุ้นให้บริษัทอื่นเข้ามาจดทะเบียนด้วย”