‘ดาวโจนส์’ปิดร่วง 94 จุดเหตุผิดหวังยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาด

‘ดาวโจนส์’ปิดร่วง 94 จุดเหตุผิดหวังยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (15 มิ.ย.)ปรับตัวร่วงลง 94 จุด ขณะที่นักลงทุนผิดหวังตัวเลขยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 94.42 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 34,299.33 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 8.56 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 4,246.59 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 101.29 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 14,072.86 จุด

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 1.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย.ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกลดลง 0.8% ในเดือนพ.ค.

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 0.7% ในเดือนพ.ค. หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดัน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ลดลง 7 จุด สู่ระดับ 17.4 ในเดือนมิ.ย. โดยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 23.0

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพีพีไอพุ่งขึ้น 6.6% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.3% หลังจากดีดตัวขึ้น 6.2% ในเดือนเม.ย.

ส่วนดัชนีพีพีไอพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 5.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2557

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันนี้และพรุ่งนี้ โดยเฉพาะการปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ย, อัตราเงินเฟ้อ และอัตราว่างงานในการประชุมดังกล่าว ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวถ้อยแถลงหลังการประชุม

นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) วงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนในการประชุมครั้งนี้

อย่างไรก็ดี คาดว่าเฟดจะเริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. และจะเริ่มดำเนินการปรับลดคิวอีในเดือนธ.ค.หรือต้นปีหน้า ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566

การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ จะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว เฟดต้องจัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ นายพาวเวลได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อปีที่แล้ว โดยได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ ซึ่งเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ

สำหรับในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ คาดว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินคิวอี ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาส่งสัญญาณให้ตลาดการเงินเตรียมพร้อมรับการถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดก่อนหน้านี้

ที่ผ่านมา ประเทศในตลาดเกิดใหม่และกำลังพัฒนามักได้รับความเสี่ยงสูงสุดจากการที่เฟดใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน และหากเฟดมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินด้วยการปรับลดคิวอีและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็จะส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลกลับไปยังสหรัฐ และกระทบอย่างหนักต่อตลาดเกิดใหม่ดังที่เคยเกิดขึ้นในปี 2541 และ 2556