ธรรมนัสผุดไอเดียร่วมอีอีซี เวนคืนที่สปก.ปั้นสมาร์ทซิตี้

ธรรมนัสผุดไอเดียร่วมอีอีซี  เวนคืนที่สปก.ปั้นสมาร์ทซิตี้

“ธรรมนัส”เล็งเวนคืนที่ดิน ส.ป.ก. 6 หมื่นไร่ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ร่วมโครงการอีอีซีปั้น"สมาร์ทซิตี้"ผุด "โรงแรม-โรงงาน” ยันป้องปมเกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบเร่งชดเชยคุ้มค่า-หาที่อยู่ใหม่ พร้อมเปลี่ยนเกษตรกรผู้ใช้ที่ดินเป็นผู้ถือหุ้น-ทำงานร่วมในโ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)ได้ร่วมกับสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ศึกษาและเลือกพื้นที่ ส.ป.ก. บริเวณอำเภอบางละมุง จำนวน  62,500ไร่ จากทั้งหมด 86,657 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นเมืองใหม่อัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้)

 

 โดยจะใช้พื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ 15,000-20,000 ไร่  คือ ในชุมชนหมู่ 11 12 และ13 เป็นสร้างเมืองต้นแบบ ประกอบด้วยโรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม  จากปัจจุบันที่ เกษตรกร ปลูกฝ้าย มันสำปะหลัง มะพร้าว ปาล์ม และยางพารา  การพัฒนาดังกล่าวจะทำให้วิถีชีวิตคนในชุมชนเปลี่ยนไป  ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกษตรกรในพื้นที่่ ต.ห้วยใหญ่ ได้รับผลกระทบ จึงได้ศึกษาแนวทางและได้ข้อสรุปว่า เกษตรในพื้นที่ทำกินดังกล่าวจะได้รับเงินค่าเวนคืน ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมกับปลูกที่อยู่อาศัยแห่งใหม่

ขอให้เกษตรกรมั่นใจในนโยบายภาครัฐ ไม่ได้มาหลอก นโยบายรัฐอะไรก็ตามที่ทำไปแล้วชาวบ้านต้องไม่เดือดร้อน และต้องได้รับประโยชน์เต็มร้อย โดยหลังจากวันนี้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดชลบุรี จะเข้าสำรวจพื้นที่ ว่าเกษตรกรแต่ละครอบครัว ประกอบอาชีพอะไร ในพื้นที่เท่าไร

 

เพื่อนำมาใช้คำนวณค่าชดเชยที่จะได้รับจากโครงการดังกล่าว เพื่อจ่ายเงินชดเชยค่าเวนคืน นอกจากนี้เกษตรกร ยังในพื้นที่จะได้รับเข้าทำงานในเมืองต้นแบบในอีอีซี และที่สำคัญที่สุดเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวมีสิทธิในการถือหุ้นในธุรกิจใน อีอีซีภายใต้การดูแลของสำนักงานปฎิรูปที่ดิน”

 

อย่างไรก็ตาม ในการกระทรวงเกษตรฯได้ร่วมกับสำนักงานส.ป.กได้เข้ารับฟังความคิดเห็นของเกษตรกรเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 680 ราย บนพื้นที่ 20,561 ไร่ เพื่อชี้แจงโครงการที่รัฐบาลจะร่วมพัฒนา ที่ดินส.ป.ก.ในพื้นที่อีอีซี แล้ว และได้ชี้แจงถึงนโยบายของพื้นที่ส.ป.ก.ในส่วนของการพัฒนาพื้นที่รอบๆ อีอีซี ทาง ส.ป.ก. จะร่วมขับเคลื่อน ในการปลูกพืชเศรษฐกิจ พืชสมุนไพร เพื่อเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ที่ยังอาศัยพื้นที่ดังกล่าว

 

สำหรับจังหวัดชลบุรีมีที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมีศักยภาพสูงสู่การพัฒนาเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีจุดยืนทางด้านการท่องเที่ยวเมืองอุตสาหกรรมสะอาด แหล่งผลิตสินค้าเกษตรปศุสัตว์ประมง ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสสำคัญในการแข่งขันด้านการผลิตการแปรรูปและการส่งออกของภาคการเกษตร

 

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ประกาศเขตปฏิรูปที่ดินแล้วจำนวน649,749ไร่มอบเอกสารสิทธิส.ป.ก.4-01ให้เกษตรกรแล้วจำนวน19,757รายเนื้อที่454,192ไร่และมีพื้นที่คงเหลือ77,157.48ไร่ซึ่งทางส.ป.ก.พร้อมจะเร่งรัดจัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกรตามนโยบายของกระทรวงเกษตรฯต่อไป

 

 ร.อ. ธรรมนัส ยังกล่าวว่า  จากการสำรวจพื้นที่ส.ป.ก.ใน 72 จังหวัดทั่วประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 36 ล้านไร่ คิดเป็น 10% ของพื้นที่ประเทศไทย หรือประมาณ 25% ของพื้นที่ภาคการเกษตรของไทยที่มีจำนวน 149 ล้านไร่ แต่พื้นที่ 3.4 ล้านไร่ อยู่ในเขตชลประทานและพื้นที่อีกประมาณ 10 ล้านไร่ อยู่นอกเขตชลประทานแต่มีแหล่งน้ำ พอเลี้ยงตัวเองได้ ส่วนอีกประมาณ 20 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ขาดแคลนแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ในการประกอบอาชีพการเกษตร ต้องอาศัย น้ำฝน

 

ดังนั้นจึงจะใช้เงินใน กองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 542.33 ล้านบาท ขุดบ่อบาดาลและระบบสูบน้ำโซล่าร์เซลล์ 30 แห่งใน 12 จังหวัด เพื่อเป็นโครงการนำร่อง และโครงการพัฒนาศักยภาพพื้นที่และการผลิต ส่วนกองทุนดังกล่าว ณ 30 เม.ย.2564 มีสินทรัพย์ 7,777.64ล้านบาท  แยกเป็นเงินงบประมาณ4.5 พันล้านบาท อื่น ๆ1.4 พันล้านบาท โดยรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายะสม1.7 พันล้านบาท