‘เงินบาท’วันนี้เปิด ‘แข็งค่า’ที่31.12 บาทต่อดอลลาร์

‘เงินบาท’วันนี้เปิด ‘แข็งค่า’ที่31.12 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทแกว่งตัวตามดอลลาร์รอจับตาประชุมเฟด แต่ เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ จากแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ หลังการแจกจ่ายวัคซีนในไทย เริ่มมีปัญหาขาดแคลนวัคซีน คาดวันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.05-31.20บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์  นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  31.12 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 31.13 บาทต่อดอลลาร์มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.05-31.20 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท  เรามองว่า เงินบาทยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways เนื่องจากบนภาพเงินดอลลาร์ ผู้เล่นในตลาดก็รอคอยผลการประชุมเฟดอย่างไรก็ดี เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ จากแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ หลังการแจกจ่ายวัคซีนในไทย เริ่มมีปัญหาขาดแคลนวัคซีน ซึ่งอาจส่งผลต่อการคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รวมถึง การทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ตลาดการเงินโดยรวมเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น (Risk-On) ท่ามกลาง มุมมองของผู้ในเล่นตลาดส่วนใหญ่ที่คลายความกังวลปัญหาเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น และมองว่า ในการประชุมเฟดที่จะถึงนี้ เฟดจะยังคงมุมมองไม่เร่งรีบปรับลดการทำคิวอี ภาพดังกล่าว ได้หนุนให้ หุ้นสหรัฐฯในกลุ่มเทคฯ (Apple +2.46%, Adobe +2.9%, Bilibili +3.63%)ปรับตัวขึ้นโดดเด่น ทำให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปิดตลาด +0.74% ส่วน ดัชนี S&P500 ก็ปรับตัวขึ้น 0.18% ขณะที่ ดัชนีDowjones ปิดลบ -0.25% กดดันโดยแรงเทขายทำกำไรหุ้นในกลุ่ม Cyclical

ในฝั่งยุโรป บรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ได้ช่วยหนุนให้ ดัชนี STOXX50 ของยุโรป ปรับตัวขึ้นราว +0.14%  โดยส่วนหนึ่งมาจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคฯ SAP +1.55%, Infineon Tech. +0.74%, ASML +0.71%

ทางด้านตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นกว่า 3bps สู่ระดับ 1.49% จากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดที่ได้หนุนให้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรบอนด์ระยะยาวออกมาบ้าง หลังจากที่ในสัปดาห์ก่อนหน้า บอนด์ระยะยาวปรับตัวขึ้นโดดเด่นจากการที่ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงหนัก ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดบอนด์ต่างรอคอยผลการประชุม FOMC ในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสฯ นี้ ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนสถานะถือครองอีกครั้ง

ส่วนในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ โดยรวมทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 90.51 จุด ซึ่งเรามองว่า เงินดอลลาร์ก็มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ Sideways ไปจนกว่าจะทราบผลการประชุม FOMC อย่างไรก็ดี ส่วนต่างระหว่างยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ กับ ยีลด์ 10ปี ญี่ปุ่น ที่เพิ่มสูงขึ้น ได้หนุนให้ เงินเยน (JPY) อ่อนค่าลง สู่ระดับ 110.08 เยนต่อดอลลาร์

สำหรับวันนี้ เรามองว่า ตลาดการเงินจะมีแนวโน้มกล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่มองว่าเฟดจะยังไม่ส่งสัญญาณปรับลดการอัดฉีดสภาพคล่องหรือลดการทำคิวอี ก่อนงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ในช่วงเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ดี การเปิดรับความเสี่ยงของตลาด อาจเป็นภาพหุ้นในกลุ่มเทคฯ ที่มีแนวโน้มผลกำไรเติบโตได้ดี สามารถปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่าหุ้นในกลุ่มอื่นๆ หลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงหนักในช่วงที่บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ เร่งตัวสูงขึ้น แต่ทว่า เราก็อาจเห็นแรงเทขายทำกำไรหุ้นในกลุ่ม Cyclical ออกมาบ้าง หลังจาก หุ้นกลุ่ม Cyclical ปรับตัวขึ้นไปมากจากช่วงต้นปี