ทางสามแพร่งรัฐบาล-3ป. ปรับครม.-รบ.เสียงข้างน้อย-ยุบสภา

ทางสามแพร่งรัฐบาล-3ป. ปรับครม.-รบ.เสียงข้างน้อย-ยุบสภา

3 บก.วิเคราะห์ ทางสามแพร่งรัฐบาล-3ป. ปรับครม.-รัฐบาลเสียงข้างน้อย-ยุบสภา เปิดสูตรแลกโควตากระทรวง

รายการ “เนชั่นสุดสัปดาห์ กับ 3 บก.” ซึ่งดำเนินรายการโดย นายสมชาย มีเสน นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร และ นายบากบั่น บุญเลิศ ออกอากาศทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 และเผยแพร่ทางเพจ เนชั่นสุดสัปดาห์,  FB, Yutube กรุงเทพธุรกิจ และ FB, Yutube ฐานเศรษฐกิจ ในเวลา 19.00 น.  วันเสาร์ที่ 12 มิ.ย. วิเคราะห์ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล จนมีกระแสข่าวการยุบสภาว่า ตอนนี้พี่น้อง 3 ป. ได้หารือกันแล้ว แต่ความเห็นไม่ตรงกัน โดยมี 1 ป. ต้องการทำงานให้ชัดเจน ให้เป็นเอกภาพ ขอเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยไปเลย

 

“ส่วน ป.พี่ใหญ่ทำหน้าที่ประสานพรรคร่วมรัฐบาล ประสาน ส.ส. ประสานคนขาใหญ่ ประสานคนในพรรคพลังประชารัฐ และประสานใจพี่น้อง ซึ่งขณะนี้ยังถือว่าประสานงานอยู่”

 

สำหรับแนวทางที่ 3 ป. จะเดินต่อมีดังนี้ 1.ปรับครม. ซึ่งมีแนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุด เพื่อลดความขัดแย้งในการทำงานกับพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากยังประสานรอยร้อยได้ ซึ่งอาจจะแลกกระทรวงกัน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ที่อาจจะนำมาแลกกับกระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวงพลังงาน แต่ในส่วนของกระทรวงคมนาคม อาจจะไม่แลกกัน

 

“นอกจากนี้อาจจะมีการแลกโควตากระทรวงกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยยกกลุ่มไปเลย โดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปอยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย และให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข มาอยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย”

โดยโมเดลของการปรับครม.การตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยู่ที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่จะอยู่ที่ครูใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย เพราะหากปรับครม.ท่ามกลางวิกฤต เท่ากับประหารชีวิตทางการเมืองของนายอนุทิน

162363987387

แนวทางที่ 2.รัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งจะมีเอกภาพในการทำงาน ไม่มีความขัดแย้ง มุ่งมั่นแก้วิกฤตโควิดให้สำเร็จ กู้วิกฤตศรัทธาที่เสื่อมทรุด และมีระยะเวลาการทำภารกิจที่ชัดเจน เนื่องจากมีเสียงข้างน้อยไม่จำเป็นต้องอยู่ยาว กำหนดเวลาและเป้าหมายที่ชัดเจน

 

“รัฐบาลเสียงข้างน้อย ถ้าคิดแค่คะแนนเสียง คิดเสียงโหวตในสภา ก็จะมีปัญหา ซึ่งการคิดแบบนี้ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติ ตอนนี้นายกฯต้องคิดว่าจะแก้ปัญหาการเมือง หรือแก้ปัญหาวิกฤตชาติ ถ้าเลือกอยู่นานหรืออยู่รอด ถ้าเลือกอยู่รอดก็ต้องใช้รูปแบบรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตอนนี้นายกฯต้องเลิกคิดการอยู่นาน ต้องคิดว่าอย่าให้มีการถ่วงขา ถ่วงการทำงาน”

ทั้งนี้หากพล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจเลือกแนวทางรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะส่งผลให้ประชาชนเห็นถึงภาวะผู้นำ ที่ไม่คำนึงถึงความอยู่รอดทางการเมือง แต่คำนึงถึงความอยู่รอดของประเทศในการแก้ไขปัญหาประชาชน โดยไม่คำนึงตัวเลขในสภา ขอให้ประชาชนอยู่รอดก่อน

162363989124

162363991022

แนวทางที่ 3.ยุบสภา โดยพล.อ.ประยุทธ์ ออกมาพูดชัดแล้วว่าเวลาของรัฐบาลเหลืออีก 1 ปี ให้รัฐบาลเร่งทำผลงาน ซึ่งในการแถลงข่าวพล.อ.ประยุทธ์ ย้ำถึง 2 ครั้ง ซึ่งเวลาของรัฐบาลตอนนี้เหลืออีก 1 ปี 10 เดือน โดยการยุบสภาเร็วมีปัจจัยดังนี้ 1.สถานการณ์โควิด-19 เบาบางลง มีการฉีดวัคซีนจำนวนมาก 2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.การเยียวยาประชาชน 4.พรรคใหม่ไม่พร้อม

 

ส่วนปัจจัยยุบสภาช้า 1.การบริหารโควิด-19 ไม่เป็นตามเป้าหมาย 2.เลือกปรับครม.เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล 3.แก้รัฐธรรมนูญบัตร 2 ใบ 4.เพิ่มการเยียวยาให้มากกว่าเงินกู้ 5 แสนล้านบาท 5.พรรคใหม่พร้อม

162363993227