'ธรรมนัส' กระชับอำนาจ พปชร. จับตาดีล 'สามมิตร-ประยุทธ์'
เป้าหมายสำคัญของธรรมนัสคือการขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ บันไดขั้นแรกจึงต้องยึดเก้าอี้เลขาฯพรรคเอาไว้ให้ได้ก่อน พร้อมกับเคยออกตัวรับบทบาทแม่ทัพนำเลือกตั้งครั้งหน้า
นับเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองครั้งสำคัญจากรัฐบาล เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศว่า จำเป็นต้องเร่งรัดการดำเนินการในหลายกิจกรรมช่วง 1 ปี ที่ยังเหลืออยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน เตรียมพร้อมที่จะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์เพื่อส่งต่อรัฐบาลต่อไป ย้ำว่าใน 1 ปีนี้เราต้องมีผลสำเร็จให้สามารถจับต้องเป็นรูปธรรมได้
จนถูกตีความว่ากำลังนับถอยหลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ท่ามกลางการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยเฉพาะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็เตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้ามานานแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมา
พลังประชารัฐ นับเป็นอีกพรรคที่กำลังจะเขย่าโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคครั้งใหญ่ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ขอนแก่น 18 มิ.ย.นี้
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่พยายามสยายปีกคุมพรรคอย่างเบ็ดเสร็จเตรียมประเดิมเก้าอี้เลขาธิการพรรคคนใหม่แทน อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่โดนขย่มมาอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายสำคัญของธรรมนัสคือการขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ บันไดขั้นแรกจึงต้องยึดเก้าอี้เลขาฯพรรคเอาไว้ให้ได้ก่อน พร้อมกับเคยออกตัวรับบทบาทแม่ทัพนำเลือกตั้งครั้งหน้า
ขุมกำลังของธรรมนัสในพลังประชารัฐ นาทีนี้ต้องเรียกว่าเต็มสูบ จากแกนนำ “กลุ่ม 3 ช.” ที่ประกอบด้วย 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ได้แก่ ธรรมนัส สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และ นฤมลภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ก่อนที่จะแท็คทีมกับอริเก่าอย่าง วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล จนลูกชาย อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เดินตามหลังธรรมนัสบ่อยๆ จนถูกขนานนามเป็น “กลุ่ม 4 ช.” ในที่สุด
ด้วยวิธีการทำการเมืองตามแบบฉบับของธรรมนัส ทำให้ ส.ส.ของพรรค ต่างพาเหรดซุกใต้ปีกจำนวนมาก และการเลือกตั้งซ่อมหลายสนามสำคัญที่ผ่านมา ตั้งแต่ชัยชนะที่ ลำปาง ขอนแก่นและนครศรีธรรมราช สร้างความมั่นใจให้ธรรมนัสอย่างมาก ว่ากำลังเดินมาถูกทาง ปัจจัยสำคัญคือการถืออำนาจและกระสุนดินดำเต็มลำ ทุ่มไม่อั้น เท่าไหร่เท่ากัน จนพรรคร่วมบางพรรคยังต้องผวา
เมื่อธรรมนัสผงาด จังหวะต่อไป วิรัช-สันติ-นฤมล-อธิรัฐ ก็ย่อมผงาดตามกันไปด้วย ถึงแม้จะอยู่ใต้อันเดอร์ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคก็ตาม แต่ข้อเท็จจริง ธรรมนัสวางเกมคุมทิศทางเอาไว้หมดแล้ว โดยมี นฤมล คอยประกบติดดูความเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มอื่นในพรรค เวลาเข้าพบ พล.อ.ประวิตร
ส่วน ธรรมนัส-วิรัช ที่คิดแผนวางเกม จนแทบจะเป็นกุนซือ พล.อ.ประวิตร อย่างไรอย่างนั้น และแทบทุกเรื่องที่ 2 คนนี้ต้องการ พล.อ.ประวิตร ก็มักเชื่อตามเสมอ
เกมกระชับอำนาจของธรรมนัส นับวันยิ่งจะใกล้จุดมุ่งหมายเข้าไปทุกที ในขณะที่แกนนำกลุ่มอื่นๆ ในพรรคที่อ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้ง กลุ่ม กปปส. หรือแม้แต่ กลุ่ม 4 ว. ที่นำโดย สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานและอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ดูเหมือนจะปล่อยเลยตามเลยให้ธรรมนัสเดินเกมคว้าตำแหน่งที่ต้องการ
จนอดสงสัยไม่ได้ว่า กลุ่ม 4 ว. กำลังคิดแผนซ้อนแผน รอเปิดเกมโต้กลับอย่างไร ในจังหวะที่สมศักดิ์ นักการเมืองจอมเก๋าออกปากให้สัมภาษณ์กระทบชิ่งถึงใครบางคนให้พึงสังวรเอาไว้
“ผมอยากให้นักการเมืองสังวรไว้ว่าประชาชนมองเราอยู่ อย่าคิดว่าวันนี้เราเดินได้สบายอยู่กับสิ่งที่เป็นอำนาจ แล้วทำให้ท่านสบาย แต่เวลาเลือกตั้งขอเรียนว่าสิ่งที่ทำไว้ในวันนี้มันจะสะท้อนในวันเลือกตั้ง ฝ่ายที่เป็นคู่แข่งเรา เขาจะเอามาโจมตีเราไม่ยั้ง แค่ภาพเดียวหรือสองภาพก็แทบตายแล้วในการเลือกตั้ง จึงอยากบอกว่าให้พึงสังวรตัวเองไว้ วันนี้อาจอยู่สบาย แต่วันเลือกตั้งมันยาก” สมศักดิ์ ระบุ
จับสัญญาณที่ สมศักดิ์ และอนุชา เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา และต่อมาก็มีเซอร์ไพรส์การซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป2021 โดยบัญชาของนายกฯ โดยมีสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการคือ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานกรรมการบริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด พี่ชายของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร และโกมลยังเป็นบิดาของ “พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ
ชื่อชั้นของสมศักดิ์ ที่เก๋าเกม และแทงหวยเลือกข้างอยู่กับผู้มีอำนาจไม่เคยพลาด ในชีวิตทางการเมืองไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน อาจกำลังสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นกับบางกลุ่มในพลังประชารัฐและยังต้องจับตา“กลุ่มสามมิตร” ที่กำลังดีลการเมืองกับนายกฯประยุทธ์
ภายใต้โจทย์ใหญ่ของธรรมนัส ในย่างก้าวต่อไปคือการเลือกตั้งใหญ่สมัยหน้าซึ่งบริบทแตกต่างจากการเลือกตั้งซ่อม ที่ธรรมนัสเจนจัด และด้วยภาพลักษณ์ด้านลบของเขาในแบบที่สังคมรับรู้ จะเป็นด่านหินให้พลังประชารัฐในการจะชนะใจประชาชน แลกกับคะแนนเสียงเลือกตั้งได้อย่างไร
ในขณะที่วิรัชซึ่งติดบ่วงคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลกำลังรัดคอ อัยการสูงสุดกำลังร่างคำฟ้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และกำลังนับถอยหลังว่าจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ในอีกไม่ช้า
ปัจจัยเหล่านี้กำลังสั่นคลอนความเชื่อมั่นทางการเมืองในภาพใหญ่ไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้