'อนุทิน' ยันปูพรมฉีด 'วัคซีนโควิด' ได้ตามเป้า-ส่งวัคซีนครบ

วานนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเเพทย์โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฉีด "วัคซีนโควิด" ที่สถานีกลางบางซื่อ พร้อมยืนยันว่าการปูพรมฉีควัคซีนเป็นไปตามเป้าหมาย จัดส่งวัคซีนได้ตามออเดอร์ไม่ล่าช้า และไม่ได้กักกัน "เเอสตร้าเซนเนก้า" จนไม่ทันส่งมอบให้ไต้หวัน

นายอนุทิน เปิดเผยถึงภาพรวมของการปูพรมฉีดวัคซีนว่า ขณะนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพสูง ซึ่ง เวลานี้ทำตามการร้องขอของกระทรวงศึกษาธิการ เร่งฉีดวัคซีนให้ "ครู" จำนวน 4.5 หมื่นคน ให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 วัน และโรงเรียนจะสามารถเปิดได้

ส่วนต่างจังหวัด วัคซีนก็จะถูกส่งเข้าระบบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในส่วนของการจัดสรรนี้ ส่วนการจัดสรรวัคซีนโควิดกลุ่มผู้ประกันตน ม.33 ให้กับประกันสังคมก็ไม่ได้เลื่อน

โดยล็อตแรกจัดส่งให้สำนักงานประกันสังคม 1 ล้านโดส ซึ่งทำการจัดส่งไปเเล้ว 2.1 เเสนโดส และในวันที่ 12 มิ.ย. 64 จะจัดส่งอีก 90,000 โดส ยืนยันว่าส่งวัคซีนโควิดตามออเดอร์ ไม่มีพลาด ไม่มีเก็บกักตุนไว้ 

ส่วนการเสียชีวิตจากวัคซีนของครูล่าสุดที่อยุธยา นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องไปพิสูจน์กัน เเละจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกคนทราบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพเเละความปลอดภัยสูง ไม่มีอันตราย มีเเพทย์พร้อมให้การดูเเล 30 นาที
ในกรณีการเสียชีวิตหลังกลับจากโรงพยาบาลไปแล้ว มีการพิสูจน์หาความเกี่ยวข้องกับวัคซีนเเทบจะไม่ได้เลย จึงต้องมีมาตรการเฝ้าระวัง 30 นาที

ส่วนกรณีที่ประชาชนบางส่วนมีความต้องการฉีด "ซิโนเเวค" มากกว่า "เเอสตร้าเซนเนก้า" นายอนุทิน ระบุว่า วัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานตามที่องค์การอนามัยโลกรับรอง การจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามวงรอบอย่าสนใจว่าจะได้รับยี่ห้อไหน

ไม่มีที่ไหนให้เลือกวัคซีนได้ มิเช่นนั้นจะเกิดการเเเข่งขันทางการค้า ต้องมั่นใจว่ารัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนที่ดีให้กับทุกคน

"กรณีที่ไต้หวันได้รับวัคซีนเเอสตร้าฯ ล่าช้า และพาดพิงถึงไทยว่าได้เก็บกักตุนเอาไว้ ยืนยันว่าเป็นเรื่องของแอสตร้าฯ ไม่เกี่ยวกับปัญหาของไทย ไทยเป็นเเค่ฐานการผลิต ยืนยันว่าไม่ได้กักกัน จนถึงปัจจุบันยังเป็นไปตามสัญญา ยังไม่ตัองทวงถามอะไร ยังส่งได้ตามสัญญาทุกอย่าง เป็นปัญหาของผู้ผลิต ไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาลไทย" นายอนุทินกล่าว