'กรมราชทัณฑ์' เผยยอดโควิด-19 พุ่งพรวด 534 ราย-ผู้ต้องขังได้รับวัคซีนแล้ว 9 แห่ง

'กรมราชทัณฑ์' เผยยอดโควิด-19 พุ่งพรวด 534 ราย-ผู้ต้องขังได้รับวัคซีนแล้ว 9 แห่ง

"กรมราชทัณฑ์" เผยยอดผู้ต้องขังติดเชื้อพุ่งพรวด 534 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย เดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด เผยฉีดครบ 100% แล้ว 9 แห่ง พร้อมวางแผนฉีดเพิ่มกว่า 30 แห่ง และเตรียมฉีดเข็มที่ 2 เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 534 ราย รักษาหายเพิ่ม 158 ราย เสียชีวิต 3 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,392 ราย ซึ่งภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 126 แห่ง พบการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งคงเดิม ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้จะมีจำนวนเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดเพิ่ม รวมถึงการเปลี่ยนสถานะจากเรือนจำ/ทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาดให้เป็นเรือนจำที่ไม่พบการแพร่ระบาดได้เพิ่ม

162314954526

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงรายละเอียดกรณีผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 3 รายในวันนี้ ว่า ผู้ต้องขังทั้ง 3 รายได้ถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นผู้ต้องขังจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เรือนจำพิเศษธนบุรี และเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งทั้ง 3 ราย เป็นผู้ต้องขังในกลุ่มเปราะบาง คือ มีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน ความดัน มีภาวะไตวาย และบางรายเป็นผู้ป่วยสูงอายุ ที่มีภาวะความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง โดยมี 2 ราย ได้ถูกส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ และโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการอย่างเต็มที่ประสิทธิภาพ แต่อาการยังคงทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิตให้แก่ญาติ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของสถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

ส่วนการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ต้องขังนั้น อธิบดีกรมราช ทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้ว 17,054 ราย ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน จำนวน 9 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2564) คือ

  • เรือนจำกลางสมุทรปราการ
  • ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี
  • เรือนจำกลางระยอง
  • เรือนจำกลางนครปฐม
  • เรือนจำพิเศษพัทยา
  • ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
  • ทัณฑสถานหญิงกลาง
  • เรือนจำพิเศษมีนบุรี
  • เรือนจำจังหวัดภูเก็ต

ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ 7 แห่ง คือ

  • เรือนจำอำเภอธัญบุรี
  • สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี
  • เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช
  • เรือนจำกลางชลบุรี
  • เรือนจำกลางราชบุรี
  • เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี
  • เรือนจำอำเภอไชยา

โดยมีเรือนจำ/ทัณฑสถานอีกจำนวน 26 แห่ง ทั้งเรือนจำสีขาวในพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี เรือนจำอำเภอธัญบุรี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางเพชรบุรี และเรือนจำสีขาวในพื้นที่สีแดง ที่จะดำเนินการฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง และผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการยืนยันทางการแพทย์ ซึ่งจะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวเช่นเดียวกัน และเมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมจะดำเนินการกระจายวัคซีนไปยังกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการฉีด จนกระทั่งครอบคลุมทุกราย ซึ่งรวมถึงการดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่มีการฉีดเข็มแรกไปแล้ว เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและให้วัคซีนสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น