BJC ลุ้นกำลังซื้อครึ่งปีหลังฟื้นจากโควิด ดันรายได้ปีนี้โต

นางสาวรวิภา บุญอยู่ ผู้บริหารนักลงทุนสัมพันธ์อาวุโส บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2 นี้อยู่บ้าง เพราะยังไม่แน่ชัดว่าจะคุมสถานการณ์ได้เมื่อไหร่ กระจายวัคซีนและเปิดเมืองได้เร็วแค่ไหน ทำให้ยากจะประเมินผลประกอบการในปีนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจบิ๊กซี ซึ่งได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อลดลงและการปิดสาขาชั่วคราวในจังหวัดท่องเที่ยว

ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ ทั้งกลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค  ธุรกิจบริการเวชภัณฑ์และทางเทคนิค ยังมีรายได้เติบโตดีกว่าปีก่อนแน่นอน  เพราะในธุรกิจอื่นยกเว้นธุรกิจบิ๊กซี มีการเติบโตดีต่อเนื่อง และหากคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19ได้ดี กระจายวัคซีนและเปิดเมืองได้เร็ว จะยิ่งส่งผลดีต่อผลประกอบการของธุรกิจต่างๆในอนาคตแน่นอน  ซึ่งเชื่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะจะฟื้นตัวดีในไตรมาส 4 นี้สถานการณ์ต่างๆ จะค่อยๆฟื้นตัว

"ช่วงนี้ยอดขายแพคเกจจิ้งกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ และน้ำดื่มวิตามินต่างๆ ยังโตดี  ขณะที่กลุ่มธุรกิจคอนซูมเมอร์ ยอดขายสินค้าทิชชู่ ขนม สบู่ ยังโตดีต่อเนื่อง เช่นเดียวกับธุรกิจเฮลธ์แคร์ ยังโตได้และเทคนิค กลับมาเติบโตดีขึ้น"       

 

ขณะที่ ผลการดำเนินงานของบริษัท ไตรมาส 1 ปี 2564  มีรายได้รวม 35,616 ล้านบาท ลดลง 15.9% และกำไร 1,012 ล้านบาท ลดลง 20.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุจากผลจากการการระบาดระลอกที่ 2 ตั้งแต่ปลายปีก่อน  

สำหรับงบลงทุนปีนี้ยังคงไว้ที่  6-7 พันล้านบาท ซึ่งสัดส่วนกว่า 50% ใช้สำหรับกลุ่มบิ๊กซีในการขยายสาขา ปรับปรุงสาขาขนาดใหญ่และให้มีความพรีเมี่ยมเหมาะกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละสาขามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเฮลธ์แอนด์บิวตี้ ยังมีความต้องการซื้อสูง และการขายออนไลน์ของบิ๊กซีในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาโตถึง40% ยังมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง        

นอกจากนี้ทางด้านความคืบหน้าการลงทุนธุรกิจเกี่ยวข้องกับกัญชง บริษัทยังไม่ได้มีแผนออกมาชัดเจน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาความเป็นไปได้