Thai Tourism Sector (7 มิ.ย.64)

• What’s new

วันศุกร์ที่ผ่านมาศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (CESA) อนุมัติโมเดลภูเก็ต

แซนบ๊อกซ์โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:
1. CESA อนุญาตให้เปิดภูเก็ต แซนบ๊อกซ์ในวันที่ 1 ก.ค. โดยศบค. จะอนุมัติและลงบันทึกในราชกิจจานุเบกษาภายในเดือนนี้

 

2. มีการปรับจำนวนวันกักตัวจาก 7 เป็น 14 วันก่อนสามารถท่องเที่ยวออกจากเกาะภูเก็ตได้ เนื่องจากความกังวลไวรัสสายพันธ์ใหม่ และไม่จำเป็นต้องกักตัวในห้องหรือสถานที่กักตัว

 

3.ผู้ประกอบการโรงแรมจำเป็นต้องติดตามและบันทึกแขกที่เข้าพัก และจะมีบทลงโทษหากแขกที่เข้าพักหายไป โดยจะมีแอพลิเคชั่นเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถติดตามตัวได้หากมีการระบาด

 

4. นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องรอ 14 วันหลังการรับวัคซีนโดสสุดท้ายและมีหนังสือรับรองการเดินทางเข้าไทย (COE pass: ผลตรวจ PCR เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง) ก่อนเดินทางมาภูเก็ต นักท่องเที่ยวต้องทดสอบ PCR สามครั้ง: เมื่อถึงภูเก็ต, วันที่ 6, วันที่ 12 โดยสามารถทดสอบ PCR ได้ทั้งในรพ.รัฐและเอกชน

 

• Analysis

มาช้าดีกว่าไม่มา การปรับจำนวนวันกักตัวในเกาะภูเก็ตขึ้นจะทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจำกัดแค่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวแค่ในภูเก็ต แต่ทำให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวหลายสถานที่ในช่วงวันพักผ่อนลดความสนใจลง (ชาวเอเชียเฉลี่ย 8-14 วันยุโรป 10-21 วัน) เรามองว่าเงื่อนไขนี้เป็นที่ยอมรับได้ใน เพื่อเริ่มการฟื้นฟูการท่องเที่ยว ณ วันที่ 3 มิ.ย.มีสายการบิน 8 รายที่สนใจให้บริการเที่ยวบินตรง (รายวันและรายสัปดาห์) สู่ภูเก็ตและมี 2 สายการบินภายในประเทศ (ไทยสไมล์และบางกอกแอร์เวย์) ให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯและภูเก็ต

 

• Action/ Recommendation

การเริ่มการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว แม้ว่าจะยังมีข้อกำหนดก่อนที่ระยะที่ 2 (1 ต.ค. เชียงใหม่, สมุย, กระบี่, พัทยา, พังงา) และระยะที่ 3 (1 ม.ค. 2022 เปิดประเทศเต็มรูปแบบ) เราเชื่อว่าข่วนี้เป็นข่าวดีที่ภาคท่องเที่ยวไทยรอมานาน เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยจะได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แข็งแกร่ง แต่ valuation ค่อนข้างแพงหากเทียบสัดส่วน ความเสียง – ผลตอบแทน