อสังหาฯหวั่นโควิดยืดเยื้อ โหมแคมเปญกระทุ้งยอด

อสังหาฯหวั่นโควิดยืดเยื้อ  โหมแคมเปญกระทุ้งยอด

บิ๊กอสังหาฯ งัดแคมเปญแรง “ลดแลกแจกแถม” ราคาต่ำล้าน ระดับไฮเอนด์ ลักชัวรี กระทุ้งยอดไตรมาสสอง แอล.พี.เอ็น. ชูกิมมิค 6เดือน6 อัดส่วนลดสูงสุด 45% คอนโดพร้อมอยู่ 14 โครงการ ทำเลใกล้รถไฟฟ้าย่านธุรกิจ ตากอากาศ ชาญอิสสระ ดึง 13 โครงการ ลด 50%

การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดระลอก 3 ราว 2,000-3,000 คนต่อเนื่องมาอย่างต่อเนื่อง 1 เดือนเต็มและยังไม่มีสัญญาณลดลง ทั้งมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ยิ่งสร้างความไม่มั่นใจต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์แม้จะพลิกกลยุทธ์ดึงลูกค้าเยี่ยมชมโครงการผ่าน “เว็บไซต์” มากขึ้น แน่นอนว่าใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อยาวนานขึ้นเช่นกัน ต้องใช้เครื่องมือการตลาด ส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ เพื่อกระตุ้นการขาย ระบายสต็อกให้ได้มากที่สุด

นางปนัดดา ขจรศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้จัดแคมเปญส่งเสริมการขายในช่วงกลางปีด้วยแคมเปญ “MID YEAR SALE6.6” กับคอนโดมิเนียม 14 โครงการพร้อมอยู่ ให้ส่วนลดสูงสุด 45% บนทำเลศักยภาพ​ใกล้รถไฟฟ้า ย่านธุรกิจ​ และทำเลตากอากาศริมทะเล ระดับราคา “ต่ำล้านบาท” อาทิ ลุมพินีทาวน์ชิปรังสิต-คลอง1​ ราคาเริ่มต้น 8.09 แสนบาท ลุมพินีเพลสรัชดา-สาธุ​ ราคาเริ่มต้น 2.16 ล้านบาท ลุมพินีสวีทดินแดง-ราชปรารภ​ ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท เป็นต้น

“ถือเป็นอีกแคมเปญหนี่งที่แอล.พี.เอ็น. ต้องการช่วยให้ลูกค้าได้มีบ้านเป็นของตัวเองง่ายขึ้น แม้ช่วงนี้จะยังเป็นช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 อยู่ก็ตาม แต่ก็ยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่มีกำลังซื้อและอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งการซื้อบ้านในช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นโอกาสทองของลูกค้า”

นอกจากนี้ ยังได้นำคอนโดมิเนียมใหม่อีก 4 โครงการ บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้าที่เปิดตัวในปี 2563 มาเข้าร่วมแคมเปญด้วยการให้ส่วนลดสูงสุด 3 แสนบาท ประกอบด้วยโครงการลุมพินี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์​ โครงการลุมพินี ซีเล็คเต็ด จรัญ 65 -สิรินธร สเตชั่น​ โครงการ ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10​และโครงการลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ -ปากเกร็ด สเตชั่น​

นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อสร้างความคึกคักให้กับตลาดอสังหาฯ ช่วงกลางปีนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการมองหาที่อยู่อาศัยในราคาและเงื่อนไขที่จับต้องได้ ทััั้งเป็นการช่วยการแบ่งเบาภาระให้ลูกค้าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 บริษัทได้จัดแคมเปญ “Mid Year Sale ทุกโครงการลด 50%” นำบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี บ้านพักตากอากาศ คอนโดมิเนียม วิลล่าหรู และโรงแรม ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม 13 โครงการ จัดโปรโมชั่นส่วนลดราคา 50% ลดพิเศษเงินดาวน์ 50% ค่าทำสัญญา 50% รวมถึงเมื่อลูกค้าซื้อบ้านหลังที่สองรับส่วนลด 50% ในแต่ละโครงการจะให้ส่วนลด 50% ในรูปแบบที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ในส่วนของโรงแรมร่วมจัดโปรโมชั่นพิเศษลดราคาค่าห้องพัก 50% อีกด้วย

“กลยุทธ์การตลาดในช่วง Mid Year Sale เราเน้นมอบข้อเสนอทั้งราคา และเงื่อนไข ที่ลูกค้าจับต้องได้ เพื่อเป็นการปลุกตลาด กระตุ้นความต้องการซื้อ และสร้างสีสันให้ลูกค้าได้มีสิทธิ์ในการเลือกรับโปรโมชั่นที่ใช่ทั้งส่วนลด ของแถม และเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้าในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 11 ก.ค.2564” นายดิฐวัฒน์ กล่าว

 พฤกษาเน้น “คุ้มจบทุกดีล”

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแคมเปญ “พฤกษา คุ้ม จบทุกดีล” ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้ 70% จากเป้าหมาย คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 4,200 ล้านบาท เนื่องจากเป็นแคมเปญที่ให้สิทธิพิเศษมากกว่าทุกครั้ง 3 รายการ ได้แก่ อยู่ฟรี นานสูงสุดถึง 36 เดือน ฟรีค่าส่วนกลาง นานสูงสุดถึง 36 เดือน และ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนฯ อีกทั้งยังได้รับส่วนลดเพิ่มเติมอีกด้วย

ผู้สนใจรับสิทธิพิเศษจากแคมเปญดังกล่าว สามารถใช้สิทธิได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ และโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายใน 31 ก.ค. 2564 สามารถเลือกที่อยู่อาศัยทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ บนทำเลศักยภาพที่หลากหลายถึง 131 โครงการ

 5 มาตรการกระตุ้นซื้อ

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ยังคงมีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยและภาคธุรกิจอสังหาฯ ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อโครงการที่อยู่อาศัย แม้ว่าผู้บริโภคจะมีความต้องการที่อยู่อาศัย แต่ส่วนใหญ่ยังชะลอการตัดสินใจซื้อโครงการ โดยปัญหาหลักที่มักพบคือ ลูกค้าบางรายมีศักยภาพในการกู้ แต่ยังมีความกังวลใจเรื่องการผ่อนชำระ ขณะที่ผู้บริโภคบางกลุ่มมีความต้องการด้านที่อยู่อาศัย แต่ด้วยภาวะปัจจุบัน อาจทำให้ไม่ผ่านการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จากปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพได้อย่างทั่วถึง

เมเจอร์ฯ จึงได้ออกมาตรการความช่วยเหลือที่พร้อมปลดล็อคทุกความ กังวลใจด้านการเงินให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ผ่านแคมเปญ“MAJOR HEROES -ฮีโร่เพื่อคนอยากมีคอนโด” เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาและลดความกังวลใจเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าครบทุกมิติ 5 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาสำหรับการกู้ซื้อคอนโดมิเนียม 2.มาตรการอยู่ฟรี สูงสุด 2 ปี 3.มาตรการเช่าอยู่ก่อนโอนโดยจ่ายค่าเช่าเป็นระยะเวลา 2 ปี 4.มาตรการความคุ้มครองที่ครอบคลุม เมื่อซื้อโครงการจากเมเจอร์ฯ รับฟรีประกันจากทิพยประกันภัย และ 5.มาตรการผ่อนชำระเงินจองและเงินทำสัญญาในอัตราดอกเบี้ย 0% สูงสุด 6 เดือนเมื่อจองและทำสัญญาผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

“แคมเปญนี้จะช่วยคลายความกังวลใจในทุกปัญหาสำหรับคนอยากมีที่อยู่อาศัย ด้วยมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ ทำให้เข้าถึงโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่บนทำเลศักยภาพ มีสิ่งแวดล้อมและการดูแลที่ดี โดย 7 โครงการภายใต้แบรนด์มาเอสโตร ,เอ็ม และเมทริส ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท ถึง 30 มิ.ย.นี้ ”

ปั้นโปรแกรมเจาะนักลงทุน

นายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัดผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ในเครือ ออริจิ้น กล่าวว่า ปัจจุบันการลงทุนอสังหาฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น เพราะมีความเสี่ยงที่ต่ำ ปันผลตอบแทนสม่ำเสมอ รวมถึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ซื้ออสังหาฯ ในช่วงที่ราคายังไม่ปรับขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ในทำเลทองของกรุงเทพฯ ซึ่งยังมีอัตราการปล่อยเช่าที่ดี สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว บริษัทจึงมุ่งเสนอทางเลือกในการสร้างโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ที่การันตีผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงต่างๆ เอง

ทั้งนี้ บริษัทพัฒนาโปรแกรม “ORIGIN Investment Property Program” เจาะนักลงทุน ที่จะสร้างผลตอบแทนระยะยาว ผ่านโครงการ “แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์ เน็กซ์ ทู เอ็มโพเรียม” บิสซิเนส เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ใจกลางกรุงเทพฯ ปันผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนสูงสุด 5-9% ต่อปีจ่ายเงินปันผลแบบ Mutual Benefit หรือแบ่งปันผลประโยชน์แก่นักลงทุนร่วมกันตามสัดส่วนการลงทุน ซึ่งจะรับปันผลตอบแทนต่อเนื่องทุกไตรมาส หรือปีละ 4 ครั้งยาวต่อเนื่อง 10+10 ปี หรือนานสูงสุด 20 ปี ลงทุนเริ่มตั้งแต่ 8-18 ล้านบาท