ผ่าสัมพันธ์ 'ซีพี-ผู้ถือหุ้นซิโนแวค'

ผ่าสัมพันธ์ 'ซีพี-ผู้ถือหุ้นซิโนแวค'

เปิดความสัมพันธ์ของ 'ซีพี' กับผู้ถือหุ้นซิโนแวค ไลฟ์ฯ เผยข้อมูล “เซี่ย ปิ่ง” ลูกพี่ลูกน้อง "ธนินท์" สร้างธุรกิจยาในจีนก่อนขยายเข้าซื้อหุ้นบริษัทลูกซิโนแวค

ธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ครอบคลุมหลายกลุ่ม โดยมีฐานสำคัญอยู่ในไทยและจีน โดยในไทยมี “ธนินทร์ เจียรวนนท์” เป็นผู้ปลุกปั้นให้อาณาจักรซีพีกลายเป็นบริษัทข้ามชาติ และขายการลงทุนไปต่างประเทศ และแน่นอนว่าจีนคือประเทศแรกที่ซีพีเลือกเข้าไปลงทุน และกลายเป็นบริษัทต่างชาติบริษัทแรกที่เข้าไปลงทุนในจีน ซึ่งซีพีลงทุนหลากหลายครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมอาหาร ค้าปลีก ยานยนต์ รวมถึงธุรกิจการเงิน 

การดำเนินธุรกิจในจีนที่เกี่ยวข้องกับซีพีจะมี 2 ส่วน คือ 

1.การลงทุนจากซีพีประเทศไทย ซึ่งนายธนินท์ เป็นผู้เข้าไปบุกเบิกร่วมกับนายสุเมธ เจียรวนนท์ พี่ชายนายธนินท์ เริ่มตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ การแปรรูปอาหาร จักรยานยนต์และธุรกิจการเงิน และล่าสุดมีนายสุภกิต เจียรวนนท์ บุตรชายนายธนินท์เป็นผู้ดูแลธุรกิจในจีนกลุ่มนี้

2.การลงทุนของญาติในจีน ซึ่งรวมถึงธุรกิจที่ “เซี่ย ปิ่ง” หรือ Tse Ping ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Sino Biopharmaceutical และ CP Pharmaceutical Group ซึ่งมีการผลิตยาออกมาหลายประเภทได้แก่ ยาชีวภาพและยาเคมีหลายชนิด และเป็นผู้นำการผลิตยาหลายโรค เช่น โรคตับ เนื้องอก โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดโรคกระดูก ระบบย่อยอาหาร โรคภูมิคุ้มกันและระบบทางเดินหายใจ และที่ผ่านมาwfhเน้นการวิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์

ทั้งนี้ แม้ Sino Biopharmaceutical จะเป็นธุรกิจที่ “เซี่ย ปิ่ง” ตั้งขึ้นมาและซีพีเป็นผู้ถือหุ้นข้างน้อย แต่ในเว็บไซต์ cpgroupglobal.com ระบุธุรกิจยาและเวชภัณฑ์เป็น 1 ใน 8 ธุรกิจหลักของซีพี ที่ดำเนินการโดย Sino Biopharmaceutical

162212549129

สำหรับ “เซี่ย ปิ่ง” เป็นบุตรของ “เซี่ย เจิ้ง หมิง” ซึ่งเป็นพี่น้องของบิดานายธนินท์ โดยเว็บไซต์ successstory.com ระบุว่า “เซี่ย ปิ่ง” เป็นทายาทของตระกูล “ธนินท์” ที่มีอิทธิพลร่ำรวยและมีอำนาจมากที่สุดคนหนึ่งในเอเชีย ซึ่งตระกูลดังกล่าวอพยพจากซัวเถามาประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ “เซี่ย ปิ่ง” อยู่ที่ประเทศจีน และไม่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจเกษตรเหมือนคนในครอบครัวก่อนที่จะตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจยา

รวมทั้งใน ปี 2558 นิตยสาร Forbes จัดให้อยู่ในอันดับที่ 949 ในรายชื่อมหาเศรษฐีโลก ด้วยทรัพย์สิน 2,300 ล้านดอลลาร์

“เซี่ย ปิ่ง” ลงจากตำแหน่งประธานบริษัทเมื่อปี 2558 และให้ “เซี่ยฉีรุ่น” บุตรสาวขึ้นมารับตำแหน่งประธานแทน ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักธุรกิจสตรีที่โดดเด่นที่สุดในจีนประจำปี 2018 โดย Forbes China ทางออนไลน์ และมีส่วนในการผลักดันให้ Sino Biopharmaceutical ซื้อหุ้น Sinovac Life Sciences ที่เป็นบริษัทลูกของบริษัทซิโนแวค เมื่อเดือน ธ.ค.2563 จำนวน 515 ล้านดอลลาร์ หรือ 15.03%

ในขณะที่ “เซี่ย ปิง” ยังมีบุตรชายอีกคนชื่อ “เอริค เซี่ย” ที่เป็นผู้บริหารของ CP Pharmaceutical Group และ Sino Biopharmaceutical ซึ่งปัจจุบัน “เอริค เซี่ย” ถือหุ้นใน Sino Biopharmaceutical ใหญ่ที่สุด สัดส่วน 21.47% ในขณะที่ “เซี่ย ปิ่ง” ถือหุ้นอันดับ 3 อยู่ที่ 8.40%  โดยบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 2543