'ไทยไม่ทน'จี้'ประยุทธ์'ลาออก ชี้บริหารผิดพลาด ต้องเปลี่ยนม้ากลางศึก

ที่สำนักงานก.พ. ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายวีระ สมความคิด เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อขอให้ลาออกจากตำแหน่ง ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

โดยนายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ สมควรที่จะเสียสละลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากการที่ระบุว่าต้องอยู่เพื่อปกป้องสถาบัน ล้วนเป็นเท็จอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด ก็ไม่เคยทำเรื่องขอเข้าเฝ้าถวายรายงานสถานการณ์ และขอพระราชทานคำแนะนำเหมือนเช่นนายกฯคนอื่นๆ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนเดียวที่ไม่ได้รายงานวิกฤติของชาติ ทั้งที่บริหารงานผิดพลาดถึงสามครั้ง นอกจากนั้น เมื่อมีข่าวลือใดๆ เกิดขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของนายกฯที่ต้องหยุดข่าวลือนั้น แต่ปล่อยปละละเลยไม่มีการดำเนินการใดๆ

นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้มีการดำเนินการตาม ม.112 ทำลายปฏิปักษ์ทางการเมืองทั้งที่เคยประกาศว่าจะไม่เอาผิดโดยกฎหมายดังกล่าว และคนของพล.อ.ประยุทธ์ ใช้ ม.112 แบล็คเมล์คนอื่น ถ้ายอมทำตามเรื่องที่ขอก็จะถอนแจ้งความ ซึ่งตามกฏหมายไม่สามารถทำได้ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ใช้สถาบันปกป้องประโยชน์แห่งตน

นายจตุพร กล่าวอีกว่า การรวบอำนาจรัฐมนตรีผ่านกฎหมาย 31 ฉบับ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิดได้ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ โควิดก็จะอยู่ตามพล.อ.ประยุทธ์ และขณะนี้ประชาชนกำลังรอฉีดวัคซีน พล.อ.ประยุทธ์เหมือนต้องเป็นกัปตันเรือ ลงเรือคนสุดท้ายเมื่อประชาชนยังไม่ได้ฉีด นายกฯ จะฉีดไม่ได้ กัปตันเรือเมื่อลงเรือเป็นคนแรก จะเป็นกัปตันเรือที่เขาดูถูกเหยียดหยาม ว่าเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบ การฉีดเข็ม2 เมื่อวานนี้ พอฉีดเสร็จปรบมือไชโยโห่ร้อง ดูเหมือนความสำเร็จแต่ความเป็นผู้นำมันไม่ได้ ในขณะที่บ้านเมืองมีวิกฤติพล.อ.ประยุทธ์ ยังทำงานหยุดเสาร์อาทิตย์ หยุดตามเวลาราชการ ไม่สอดคล้องกับวิกฤติของชาติ

นายจตุพร กล่าวว่า ในเรื่องของการปราบปรามทุจริต เคยมีการประกาศเป็นวาระแห่งชาติครั้งหนึ่งเมื่อปี59 และครั้งที่2 ปี64 ถ้ารัฐบาลนี้ทำสำเร็จก็คงไม่ต้องมีการประกาศครั้งที่สอง ซึ่งการเตรียมกู้เงิน 7 แสนล้านบาท มาพร้อมกับวาระการปราบทุจริต มีความเสี่ยงจะเกิดการทุจริต ทั้งนี้ ตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์เข้าสู่อำนาจ มีการสืบทอดอำนาจ ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ปฏิรูปประเทศ ใช้งบประมาณเกิน 20 ล้านล้าน ใช้เงินและกู้เงินมากที่สุด มีอำนาจเบ็ดเสร็จมากที่สุด จึงต้องดูตัวอย่างพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ยุติความขัดแย้งในยุคคอมมิวนิสต์ ซึ่งทำได้สำเร็จด้วยการออกคำสั่ง 66/23 และรู้จักพอ ทั้งที่มีพรรคการเมืองเสนอให้ท่านเป็นนายกฯ ต่อ แต่พล.อ.ประยุทธ์หาความสำเร็จสักเรื่องก็ไม่มี ถามว่าจะอยู่เพื่ออะไร ที่ผ่านมาความสำเร็จอยู่ตรงไหนบ้าง

นายจตุพร กล่าวว่า ตนเรียกร้องให้ลาออกตามวิถีทางประชาธิปไตย ทำตามความต้องการของประชาชนสักครั้ง ส่วนใครจะมาแทนนั้น ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เป็นได้ใครก็เป็นได้ มีการบอกว่าเป็นการเปลี่ยนม้ากลางศึก แต่ถ้าม้าขาขาด ประเทศนี้จะใช้ม้าขาขาดไปรบหรือ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรู้ตัวเองว่าหมดแล้ว