Investment Strategy (24 พ.ค.64)

Investment Strategy (24 พ.ค.64)

การฟื้นตัวที่สดใสในสหรัฐฯและยุโรป

  • What’s new

Markit เปิดเผยข้อมูล Flash PMI เดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ, ยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วยความเร็วที่ต่างกันตามการฉีดวัคซีนและสถานการณ์ Covid-19 ของแต่ละประเทศ ข้อมูล Composite PMI ของสองยักษ์ใหญ่ (สหรัฐฯ และยุโรป) แตะระดับสูงสุดประวัติศาสตร์ในพ.ค. ที่ 68.1 สำหรับสหรัฐฯ (จาก 63.5 ในเม.ย.) และระดับสูงสุดในรอบ 39 เดือนสำหรับยุโรปที่ 59.6 (จาก 53.8) จากการขยายตัวของภาคบริการจากการเปิดเมืองและการฉีดวัคซีน ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 5.4 จุดในพ.ค. สู่ 70.1 (เทียบกับ 64.7 ในเม.ย.) และในยุโรปเพิ่มขึ้น 4.6 จุดสู่ 55.1 (เทียบกับ 50.5) ส่วนกิจกรรมภาคการผลิตในสองยักษ์ใหญ่ยังอยูในระดับที่ดี สะท้อนความต้องการในประเทศฟื้นตัว ดัชนีภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 61.5 ในสหรัฐฯ (จาก 60.5 ในเม.ย.) และทรงตัวในยุโรปที่ 62.8 (จาก 62.9) เนื่องจากการติดขัดด้านซัพพลาย ส่วนในญี่ปุ่น Composite PMI พลิกกลับสู่การหดตัวที่ 48.1 (เทียบกับ 51.0) โดยภาคการผลิตที่ 53.1 (เทียบกับ 54.3) และภาคบริการ 45.7 (เทียบกับ 49.5)

 

  • Analysis

เดือนมิ.ย. จะยังเป็นเดือนที่ดีสำหรับทั้งสหรัฐฯและยุโรป แนวโน้มของประเทศที่ยังพยายามควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เช่น ญี่ปุ่นและเอเชีย มีแนวโน้มที่ดีน้อยกว่า ภาคการผลิตและบริการไม่สามารถฟื้นตัวได้เนื่องจากการล็อคดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นหรือการลอคดาวน์ครั้งใหม่ การฟืนตัวของสองยักษ์ใหญ่และในประเทศพัฒนาแล้วจะหนุนความต้องการสินค้าและบริการ แต่ประเทศผู้ผลิตใหญ่หลายรายยังคงต้องสู้กับการควบคุมโรคระบาด ประเด็นนี้จะทำให้เกิดความไม่สมดุลในห่วงโซ่อุปทานและทำให้เกิดความกังวลเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเราคงมุมมองว่า Fed จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจนกระทั้งมีการจ้างงานฟื้นตัวเต็มที่และมีราคามีเสถียรภาพ (ในระยะยาว)