กิน 'ทุเรียน' ช่วย 'ลดความอ้วน' เรื่องจริงหรือหลอก?​ หาคำตอบที่นี่!

กิน 'ทุเรียน' ช่วย 'ลดความอ้วน' เรื่องจริงหรือหลอก?​ หาคำตอบที่นี่!

จริงหรือไม่? ที่บอกต่อๆ กันว่า "กินทุเรียน" ก็ช่วย "ลดความอ้วน" ได้ กรมอนามัย มีคำตอบให้ พร้อมชวนปอกเปลือกทุเรียน เช็ค “แคลอรี่” กันดูว่า ในแต่ละสายพันธุ์ฮิต มีแคลอรี่เท่าไหร่บ้าง

ฤดูกาลของผลไม้ที่ไม่รักก็เกลียดไปเลยอย่าง "ทุเรียน" กลับมาถึงอีกแล้ว ไถฟีดเฟซบุ๊คทีไร เป็นหนีไม่พ้นรูปทุเรียนสีเหลืองสวยบนไทม์ไลน์ของเพื่อนบนโซเชียลอย่างแน่นอน 

หลายคนอดใจไม่ไหว จัดมาให้สมใจอยาก ยิ่งสมัยนี้ หาซื้อทุเรียนแสนง่าย โควิด-19 ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เราสามารถสั่งซื้อทุเรียนออนไลน์ ไม่ต้องรอนาน ทุเรียนก็มาวางพร้อมถึงหน้าบ้านแล้ว

ยิ่งระยะหลัง มีหนึ่งความเชื่อที่สะพัดกันมากในโลกออนไลน์ ที่บอกว่า กินทุเรียนไม่ได้ทำให้อ้วนอย่างที่คิด เพราะที่จริง กินทุเรียนก็สามารถช่วยลดความอ้วนได้!?

"กินทุเรียนช่วยลดความอ้วน" เรื่องนี้ความจริงเป็นอย่างไร? “กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” จะชวนไปหาคำตอบ จาก กรมอนามัย พร้อมๆ กัน 

 

  162161479594   

  • “ทุเรียน” กับการ “ลดความอ้วน” 

แม้ว่า "ทุเรียน" จะถือเป็นผลไม้ที่ประกอบด้วยหลายๆ สารอาหารที่มีประโยชน์ แต่สำหรับความเชื่อที่ว่า กินทุเรียนแล้วสามารถส่วนช่วยลดโรค ลดความอ้วน เพราะมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีวิตามินอีสูง จะช่วยป้องกันและรักษามะเร็งต่างๆ 

โดยวิธีที่บอกต่อๆ กันมาก็คือ ให้เริ่มกิน ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า (ราวๆ ตีห้า - 7 โมงเช้า) ทานได้ครั้งละไม่เกิน 2-3 พู หรือเท่ากับ 4-6 เม็ด จากนั้นให้ดื่มน้ำอุ่นตาม แต่ต้องงดอาหารเช้า และกินติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน เพราะความร้อนจากสารกำมะถันและเส้นใยในทุเรียนจะไปช่วยชะล้างสิ่งสกปรกภายในลำไส้ เป็นความจริงหรือไม่?

เรื่องนี้ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ เคยให้ข้อมูลชี้แจงไว้ สมัยที่เป็น อธิบดีกรมอนามัย โดยบอกว่า “ทุเรียน” มีสารต่างๆ ไม่ต่างจากผลไม้ทั่วๆ ไป คือ ทุเรียนมีเส้นใยช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ แต่ไม่สามารถกินเพื่อลดความอ้วนได้ เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง โดยเฉลี่ย 1 เม็ด จะมีค่าพลังงานอยู่ที่ 130 กิโลแคลอรี ถ้ากิน 4-6 เม็ดจะให้พลังงาน 520-780 กิโลแคลอรี หรือเท่ากับการกินอาหาร 2 มื้อ 

ดังนั้น จากคำตอบของ นพ.วชิระ จึงอาจสรุปที่บอกว่ากินทุเรียนช่วยลดน้ำหนักได้ จึงเป็นเรื่องจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะ ในแง่ของกากใยนั้น ถือว่า กินทุเรียนสามารถช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ แต่ถ้าเทียบกับ “แคลอรี” ที่เป็นของแถมมาด้วยนั้น อาจถือว่า ไม่คุ้มค่ากัน

ทั้งนี้ นพ.วชิระ แนะนำ ว่า ถ้าจะกินทุเรียนเพื่อหวังผลเรื่องระบบขับถ่าย ควรเลือกทานผลไม้ชนิดอื่นที่ให้พลังงานน้อยจะดีกว่า 

นอกจากนี้ ในส่วนของ "สารกำมะถัน" ในทุเรียน ที่ถูกอ้างว่า มีส่วนช่วยชะล้างสิ่งสกปรกในลำไส้นั้น ที่จริงแล้ว เจ้าสารกำมะถันนี้ จุดเด่นคือทำให้ทุเรียนมีกลิ่นแรง แต่ไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่าสามารถต้านการอักเสบ หรือฆ่าเชื้อได้

 

   

  • กิน “ทุเรียน” ให้อร่อย แบบร่างไม่พัง

ทั้งนี้ ​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า หากทานทุเรียนมาก จะทำให้ได้รับพลังงานสูง ฉะนั้นควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ด ไม่กินถี่ทุกวัน และกินผลไม้ให้หลากหลายชนิดในแต่ละวัน รวมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยเผาพลาญพลังงานส่วนเกิน

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุเรียนจัดอยู่ในอาหารกลุ่มผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ รวมทั้งเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต หากต้องการกินทุเรียนให้ได้รับประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสม ไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ดขนาดกลาง (หนักประมาณ 80 กรัม) ไม่กินถี่ทุกวัน และลดอาหารกลุ่มข้าว-แป้ง 1 ทัพพี และของหวานในมื้อที่กินทุเรียน

สำหรับชาวทุเรียนเลิฟเวอร์ ที่ชอบกินทุเรียนมาก ก็ควรทราบเป็นข้อมูลไว้ด้วยว่า หากกินทุเรียนครั้งละประมาณ 2-3 พู หรือ 4-6 เม็ด ร่างกายจะรับพลังงานสูงถึง 520 – 780 กิโลแคลอรี ซึ่งเทียบเท่ากับกินอาหารมื้อหลัก 2 มื้อ

ทั้งนี้ ทุเรียนแต่ละพันธุ์เมื่อเปรียบเทียบต่อปริมาณเนื้อทุเรียนหนัก 100 กรัมหรือ 1 ขีด จะให้พลังงานต่างกัน เช่น

  • ทุเรียนก้านยาวให้พลังงาน 181 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนรวง ให้พลังงาน 157 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนหมอนทอง ให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนชะนี ให้พลังงาน 139 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนกระดุมให้พลังงาน 129 กิโลแคลอรี หรือหากเป็น
  • ทุเรียนกวน จะให้พลังงานมากขึ้นไปอีก คือ 340 กิโลแคลอรี

นอกจากนี้ จึงควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน

162161414117

สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังเรื่องการกินทุเรียนมากกว่าคนทั่วไป อาจกินได้แต่ต้องกินในปริมาณน้อยกว่าคนปกติและไม่บ่อยเกินไป เพราะจะส่งผลต่อระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดได้

นอกจากนี้ ไม่ควรกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ให้พลังงานสูงเช่นเดียวกัน เมื่อกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะได้รับพลังงานที่มากเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดกระบวนการ   เผาผลาญเพื่อกำจัดของเสียเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ กรดกำมะถันในทุเรียนจะทำให้เอนไซม์ที่กำจัดสารพิษจากกระบวนการเผาผลาญลดลง หากมีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัวอาจทำให้เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียนและอาเจียน หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้