'หมอฟันภาคเอกชน' เตรียม ฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 2

'หมอฟันภาคเอกชน' เตรียม ฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 2

ทันตแพทยสมาคมฯ เตรียมประสาน ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 2 ให้หมอฟันภาคเอกชน ชี้หากได้รับวัคซีนครบจะช่วยให้เกิดความมั่นใจในการให้บริการประชาชนมากขึ้น เพราะแม้มีอุปกรณ์ป้องกันยังไงก็อาจมีความเสี่ยงที่จะมีผู้ติดเชื้อหลุดเข้ามารับบริการได้

วันนี้ (21 พ.ค. 64) ทพ.อดิเรก ศรีวัฒนาวงษา นายกสำรองทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยได้เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อเสนอข้อเรียกร้องให้ช่วยจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่ทันตแพทย์ในภาคเอกชน เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งบุคลากรแนวหน้าในการให้บริการประชาชนในช่วงที่มีการระบาด

อีกทั้ง ยังมีสัดส่วนในภาคเอกชนกว่า 50% และไม่มีหน่วยงานต้นสังกัดคอยจัดหาวัคซีนให้ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะมีการติดเชื้อจากผู้รับบริการ ซึ่งทางนายอนุทินเห็นด้วยกับหลักการดังกล่าวและขอขอบพระคุณที่ได้มีการจัดสรรวัคซีนมาให้แล้วจำนวนหนึ่ง

ทพ.อดิเรก กล่าวว่า ความคืบหน้าของการกระจายวัคซีนแก่ทันตแพทย์ที่ทำงานในภาคเอกชนในขณะนี้ได้มีการฉีดเข็มแรกให้แก่ผู้ที่แจ้งความประสงค์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ยังมีทันตแพทย์ที่ตกค้างอยู่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งยังไม่ได้รับการฉีดเข็มแรกร่วมกับชุดแรก 5,000 คน ดังนั้นจึงกำลังประสานเพื่อให้ผู้ที่ตกค้างอีก 5,000 กว่าคนได้รับการฉีดเข็มแรก

ส่วนกลุ่มแรก ซึ่งได้ฉีดเรียบร้อยแล้วมีการนัดหมายกับทางโรงพยาบาลวิมุติไปฉีดเข็มที่ 2 ภายในสัปดาห์นี้คือเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 29 พ.ค.เป็นต้นไป ส่วนกลุ่มที่ 2 จะไปเริ่มเช็คเข็มแรกในราววันที่ 5 หรือ 10 มิถุนายนที่จะถึง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นหน่วยบริการที่จะฉีดวัคซีนให้แก่ทันตแพทย์ที่แจ้งความประสงค์มายังทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย

"การจัดการก็คงเหมือนเดิม โดยกำลังประสานกับโรงพยาบาลวิมุตซึ่งก็ให้บริการฉีดรอบแรกให้ และเป็นที่ชื่นชมของบรรดาทันตแพทย์ที่ไปรับบริการว่ามีระบบการจัดการดี การนัดหมายที่แม่นยำ ฉีดเสร็จก็รู้ว่าจะต้องมาฉีดเข็มต่อไปเมื่อไหร่ เป็นไปตาม Protocal มาตรฐาน" ทพ.อดิเรก กล่าว

ทพ.อดิเรก กล่าวว่า การได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จะทำให้ทันตแพทย์ที่ทำงานในภาคเอกชนมีมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นในระดับที่น่าพอใจ และมีความมั่นใจในการให้บริการมากขึ้น เพราะอย่าลืมว่าแม้จะมีการคัดกรองผู้ป่วย มีชุดป้องกันต่างๆ รวมทั้งมีเครื่องดูดละอองฝอยขณะทำหัตถการ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะมีจะมีคนให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรืออาจเกิดความพลั้งเผลออื่นๆจนเกิดการติดเชื้อได้ ถ้าหลุดมาแค่คนเดียวก็ถือเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฉีดวัคซีนไว้เพื่อป้องกันตัวเองให้เต็มที่