'ประยุทธ์'น่วมโควิดเอฟเฟคท์ จับตา'ประวิตร'ส่งไม้ต่อพปชร.
นอกจากปัญหา “โควิด” จะเป็นแนวรบสำคัญแล้ว “นายกฯ” ยังต้องเจอแนวรบทางการเมือง เมื่อแนวร่วมหลายกลุ่มเริ่มเปิดหน้าเปิดตัวออกมาขับไล่
ในจังหวะที่การระบาดโควิด-19 ระลอก 3 กำลังพ่นพิษอย่างสาหัส ยอดผู้ติดเชื้อรวมทุกคลัสเตอร์ ไต่เพดานเฉียดหมื่นคนต่อวัน ทุกความคาดหวังจึงอยู่ที่รัฐบาล และตัวผู้นำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องเจอกับสถานการณ์บีบบังคับรอบด้าน
ไหนจะต้องบริหารจัดการโควิด เร่งป้องกันและควบคุมการระบาด การปูพรมฉีดวัคซีน การฟื้นฟูเศรษฐกิจ เยียวยาผู้รับผลกระทบ ที่ดูจะยังไม่ได้ดั่งใจนายกฯ เท่าที่ควร
นอกจากปัญหา “โควิด” จะเป็นแนวรบสำคัญแล้ว “นายกฯ” ยังต้องเจอแนวรบทางการเมืองเมื่อแนวร่วมหลายกลุ่มเริ่มเปิดหน้าเปิดตัวออกมาขับไล่
รวมถึงความเคลื่อนไหวจากพรรคร่วมรัฐบาล และพลังประชารัฐ บรรดาคีย์แมนของพรรคต่างเกาะติดพื้นที่ อาศัยช่วงโควิด ตรวจเยี่ยม ช่วยชาวบ้าน แจกสิ่งของกันคึกคัก นัยหนึ่งก็เป็นการหาเสียงนั่นเอง
คนในซีก “พลังประชารัฐ” หลายคน ออกอาการพูดไม่เต็มปากถึงสถานการณ์ทางการเมืองเพราะถูกสั่นคลอนจากโควิดอย่างหนักหน่วง แกนนำบางคนก่อนหน้านี้จากที่เคยมั่นอกมั่นใจจะอยู่ครบเทอม ก็ชักหวั่นๆ เพราะความนิยมกำลังหล่นวูบ ต่างจากช่วงก่อนหน้านี้
หลายคนจึงเริ่มลุกขึ้นเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ซุ่มทำพื้นที่ เซ็ตอัพทีมงาม เฟ้นหาตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งกันแล้ว เพราะไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเร็วหรือช้า คนที่พร้อมย่อมได้เปรียบและในช่วงที่ยังมีอำนาจ ก็ยิ่งได้เปรียบ สามารถทำอะไรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อปูทางวางฐานการเมืองรอบหน้า
นอกจากนั้น ตามที่นายกฯ ลงนามข้อกำหนด ที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่ให้สามารถจัดการประชุมซึ่งรวมคนจำนวนมากได้ เช่น การประชุมสภา โดยต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด แต่ผ่อนผันเฉพาะช่วงที่แสดงความเห็นหรือการลุกขึ้นอภิปราย
จึงอาจรวมถึงการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของหลายพรรคการเมือง ที่เลื่อนมาก่อนหน้านี้โดยต้องจับตาที่พลังประชารัฐ ที่กำลังจะเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค จาก “อนุชา นาคาศัย” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไปเป็น “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรและสหกรณ์
ชื่อของ “ร.อ.ธรรมนัส” น่าจะชัดเจน ไม่มีอะไรผิดไปจากนี้ แต่สิ่งที่ “บิ๊กรัฐบาล” เป็นห่วงคือคลื่นใต้น้ำที่จะเกิดขึ้นในระลอกต่อไป เมื่อ “ร.อ.ธรรมนัส” รุกฆาตยึดพรรคสำเร็จ
ท่ามกลางกระแสข่าว “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” กำลังมองหาผู้ที่เหมาะสมมารับไม้ต่อในตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ย่อมเจอแรงต้านของ “ก๊วนธรรมนัส” อย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วน “ก๊วนธรรมนัส” เองก็มีกลุ่มในพรรคที่ต่อต้านเช่นเดียว สถานการณ์ใน “พลังประชารัฐ” อยู่ในอาการค่อนข้างง่อนแง่น แกนนำบางกลุ่มตั้งพรรคเผื่อไว้แล้ว จะเห็นได้ว่ารอยร้าวของพรรคฝังลึก พร้อมจะแตกได้ทุกเมื่อ
จนมีเสียงร่ำลือในพรรคว่า “คนบนตึกไทยคู่ฟ้า” ออกปากถามรัฐมนตรีคนหนึ่งของ “พลังประชารัฐ” ว่าจะยังอยู่กับผมหรือไม่ อาจสะท้อนความไม่มั่นใจบางอย่างกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต