‘อันเฟรล’ชี้ผลเลือกตั้งเมียนมาสะท้อน‘เจตจำนงค์ประชาชน’

เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล) หนึ่งในสองกลุ่มระหว่างประเทศที่ได้สังเกตการณ์เลือกตั้ง แถลงว่า การเลือกตั้งเมียนมาเมื่อปีที่ผ่านมาเสรีและเป็นธรรมน้อยกว่าในปี 2558 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโควิด-19 ระบาด กระนั้นในความเห็นของอันเฟรล ผลการเลือกตั้งเป็นตัวแทนเจตนารมณ์ประชาชนชาวเมียนมา

“แม้โควิด-19 ระบาดใหญ่ ประชาชนยังไปลงคะแนนเสียงกันถึง 27.5 ล้านคน ผลจากการทำงานหนักของเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้ง หน่วยงานที่ดูแลการเลือกตั้งและหน่วยงานสาธารณสุข เสียงของประชาชนจึงถูกเพิกเฉยไปไม่ได้”

ทั้งนี้ กองทัพเมียนมาเคยอ้างว่า พบการทุจริตเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่พรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางอองซาน ซูจี ชนะพรรคสนับสนุนกองทัพ กองทัพเคยแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว แต่กกต.ไม่สนใจจึงต้องยึดอำนาจแล้วจะจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 2 ปี

แต่อันเฟรลซึ่งเข้าไปสังเกตการณ์ใน 13 จาก 14 รัฐและภูมิภาคกล่าวว่า เหตุผลการยึดอำนาจของกองทัพเมียนมานั้น “ฟังไม่ขึ้น”เช่นเดียวกับคาร์เตอร์เซ็นเตอร์ ที่มีฐานปฏิบัติการในสหรัฐ อีกหนึ่งกลุ่มสังเกตการณ์การเลือกตั้งนานาชาติก็เคยกล่าวว่า การเลือกตั้งเมียนมาที่ผ่านมา “ผู้ลงคะแนนสามารถแสดงเจตจำนงค์ของตนได้อย่างเสรี”

สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า การรัฐประหารฉุดรั้งเมียนมาเข้าสู่ความโกลาหล ประชาชนเดินขบวนประท้วงทุกวัน กลุ่มต่อต้านรัฐประหารเกิดขึ้นมากมาย นักเคลื่อนไหวเผยว่า กองกำลังความมั่นคงสังหารประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 796 คนนับตั้งแต่รัฐประหาร แต่กองทัพปฏิเสธตัวเลขดังกล่าว