เปิด 10 กองทุน ‘ผลตอบแทน’ สูงสุดในอุตสาหกรรมกองทุน
เปิด 10 กองทุนผลตอบแทนสูงสุดในอุตสาหกรรมกองทุนในเดือนพ.ค.นี้ นำโดย 8 กองทุนน้ำมันติดท็อปเท็น นำโดย"กองทุนเปิดทหารไทยออยฟันด์" ผลตอบแทน 44.79% และ "กองทุนเปิดเคแทมออยล์ฟันด์"ผลตอบแทน 44.33% มอร์นิ่งสตาร์แนะเหมาะกับนักลงทุนเสี่ยงได้สูงเท่านั้น
จากแนวโน้มการเริ่มฟื้นตัวเศรษฐกิจ ทำให้ความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้น ประกอบการการลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคจะเป็นปัจจัยที่ผลักให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นได้ หนุนให้ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ “กองทุนน้ำมัน” มีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 32.9% ถือว่า “สูงสุด” ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม
โดยอุตสาหกรรมกองทุนรวม ณ เดือน เม.ย. 2564 มีมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 4.73 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากสิ้นปี 2563 และเพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลในเว็บไซด์ มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) พบว่า กองทุนที่มี "ผลตอบแทน" สูงสุดในอุตสาหกรรมกองทุน 10 อันดับแรก ณ 12 พ.ค. 2564 (YTD) ดังนี้
10 อันดับ กองทุน ‘ผลตอบแทน’ สูงสุดในอุตสาหกรรม
1.กองทุนเปิดทหารไทยออยฟันด์ (TMBOIL) ผลตอบแทน 44.79%
2.กองทุนเปิดเคแทม ออยล์ ฟันด์ (KT-OIL) ผลตอบแทน 44.33%
3.กองทุนเปิดกรุงศรี ออยล์ (KF-OIL) ผลตอบแทน 40.92%
4.กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ฟันด์ (TISCOOIL) ผลตอบแทน 40.12%
5.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออยล์ (SCBOIL) ผลตอบแทน 39.78%
6.กองทุนเปิดเค ออยล์ (K-OIL) ผลตอบแทน 39.04%
7.กองทุนเปิดแอสเซทพลัสออยล์ (ASP-OIL) ผลตอบแทน 38.33%
8.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป หุ้นระยะยาว (MIDSMALLLTF) ผลตอบแทน 37.09%
9.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป หุ้นระยะยาว ชนิดเพื่อการลงทุน (MIDSMALLMF) ผลตอบแทน 37.09%
10.กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ออยล์ (TUSOIL) ผลตอบแทน 36.99%
จากข้อมูลดังกล่าวมีถึง "8 กองทุนน้ำมัน" ที่ติด 1 ใน 10 อันดับแรกผลตอบแทนสูงสุดในอุตสาหกรรมกองทุน
ขณะที่อีก 2 กองทุนเป็นประเภท "กลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก" ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 20.1%มาเป็นอันดับ 2 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม
“กองทุนน้ำมัน” เป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก
“ชญานี จึงมานนท์” กล่าวว่า แม้ว่าผลตอบแทนกองทุนน้ำมันในระยะ 1 ปี จะปรับขึ้นมาถึง 98% แต่หากมองย้อนหลังช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยังติดลบ 10% ดังนั้นผลตอบแทนกองทุนน้ำมันในระยะหว่างยังค่อนข้างเหวี่ยงมาก แม้หลังจากหลายประเทศมีการคลายมาตรการล็อคดาวน์และเศรษฐกิจจะกลับมาก็ตาม จึงไม่ได้เป็น กองทุนที่เหมาะกับทุกคนจะสามารถลงทุนได้
แนะว่า กองทุนน้ำมัน เป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้มากเท่านั้น และอยากให้ผู้ลงทุนพิจารณาการลงทุนผ่านกองทุนในระยะยาวมากกว่า เพราะในช่วงนี้ที่บรรยากาศการลงทุนไม่ค่อยสู้ดีนัก จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งและบอนด์ยิลด์ปรับขึ้นได้ กดดันราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นมาแรงอาจมีโอกาสปรับตัวย่อลงได้เช่นกัน
สำหรับ “กองทุนเปิดทหารไทยออยฟันด์” (TMBOIL) ที่มีผลตอบแทนสูงสุด 44.79% ในกลุ่มกองทุนน้ำมัน ล่าสุดราคาอยู่ที่ 3.93 บาท
โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ -2.86% , ย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 2.54% และย้อนหลัง 10 ปี อยู่ที่ -9.52%
มีการลงทุนในหลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ดังนี้
1.Crude Oil Dec21 สัดส่วน 48.39%
2. Invesco Shrt-Trm Inv Gov&Agcy Instl สัดส่วน 23.92%
3. United States Treasury Bills 0% สัดส่วน 15.50%
4. Invesco Treasury Collateral ETF สัดส่วน 5.85%
5. United States Treasury Bills 0% สัดส่วน 4.87%
กองทุน TMBOIL จะใช้นโยบายในการบริหารเชิงรับ (Passive Investment Strategy) โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco DB Oil Fund ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange : NYSE Arca) ที่มีนโยบายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี DBIQ Optimum Yield Crude Oil Index Excess Return TM ซึ่งเป็นดัชนีที่มุ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) กองทุนดังกล่าวบริหารจัดการโดย Invesco PowerShares Capital Management LLC