เช็คความพร้อม 25จุดฉีดวัคซีน หอการค้าไทยมั่นใจแรงตอบรับดี

12 พ.ค. ถือฤกษ์เปิดหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของภาคเอกชน  ประเดิมวันแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ที่ร่วมมือกับโรงพยาบาลรามาธิบดีและโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่เปิดให้ฉีดวัคซีน และโดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวเป็น 1 ใน 25 สถานที่ฉีดวัคซีนที่ได้รับการคัดเลือกจากกรุงเทพมหานคร, คณะกรรมการควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร และ หอการค้าไทย ตามแผนโรดแมปที่ภาคเอกชนของทีมสนับสนุนการกระจายและการฉีดวัคซีน  เพื่อฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และอาสาสมัคร ที่ได้รับการลงทะเบียนแล้วเท่านั้น ซึ่งที่เซ็นทรัลลาดพร้าวให้สามารถให้บริการ ได้ 2,000-2,500 คน ต่อวัน

ต่อมาวันที่ 13 พ.ค. เปิดฉีดเข็มแรก ที่ย่านมิตรทาวน์ และวันที่ 14 พ.ค.ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ  โดยทั้ง 3 จุดนี้เป็นสถานที่ฉีดสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และอาสาสมัคร ที่ได้รับการลงทะเบียน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าเยี่ยมชมการเตรียมความพร้อมและกล่าวชื่นชมการทำงานของภาคเอกชนว่ามีความพร้อมและมีประสิทธิภาพ  และจะนำเป็นโมเดลสู่ต่างจังหวัดต่อไป

ในส่วนของสถานที่อื่นอีก 9 แห่งประกอบด้วยบริษัทปูนซีเมนต์ไทย หรือ SCG บางซื่อ ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ,True Digital Park ,เอเชียทีค , ,โรบินสัน ลาดกระบัง, โลตัส มีนบุรี, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ,ไอคอนสยาม ,สถานีบริการน้ำมัน ปตท. พระราม 2,เดอะมอลล์ บางแค,  บิ๊กซี บางบอน  จะเปิดฉีดเข็มแรกให้กับประชาชนทั่วไปในวันที่ 28 พ.ค.นี้ 

ขณะที่อีก 11 แห่ง ได้แก่  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ (สำนักงานใหญ่) มหาวิทยาลัยศรีปทุม เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม โลตัส พระราม4 โลตัส ปิ่นเกล้า บิ๊กซี ร่มเกล้า  อยู่ในระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม

ทั้งนี้สถานที่การฉีดวัคซีนแต่ละแห่งประเมินว่าจะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000-3,000 คนต่อวัน รวมสามารถให้บริการได้ 38,000-50,000 คนต่อวัน ทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่องเป็นเวลา 7 เดือน เพื่อให้การบริการวัคซีนเป็นไปอย่างทั่วถึง รวดเร็วและปลอดภัยสำหรับประชาชนสูงสุด

“สนั่น อังอุบลกุล”ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า  ตั้งแต่เปิดให้ฉีดวัคซีนในสถานที่ของเอกชนตั้งแต่ที่ 12 พ.ค.จนถึงวันนี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องความพร้อมด้านสถานที่ อุปกรณ์เครื่องมือ ระบบการบริหารจัดการที่มีความรวดเร็ว และบุคลากรอาสาสมัคร  ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมก็สามารถเดินทางไปฉีดวัคซีนได้ในสถานที่ตัวเองสะดวกได้ ซึ่งถือเป็นการทดสอบความพร้อมก่อนที่จะให้บริการกับประชาชนทั่วไป ในเดือนมิ.ย.และ หากมีวัคซีนเข้ามามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ภาคเอกชนก็ยังสามารถเพิ่มจำนวนสถานที่ได้อีก

 

อย่างไรก็ตามหลังการเปิดสถานที่ฉีดวัคซีนทั้งหมด 25 แห่งแล้ว ทางหอการค้าไทยจะมีการประเมินผลการดำเนินการว่ามีประชาชนมาเข้ารับการฉีดวัคซีนมากน้อยแค่ไหน  รวมถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ หากพบว่าจุดใดมีผู้เข้ามาฉีดวัคซีนน้อยกว่าที่คาดไว้ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใดก็อาจจะยุบสถานที่นั้นไปรวมกับจุดอื่นๆ โดยในเดือนพ.ค.นี้ก็จะเน้นให้กับกลุ่มกับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และอาสาสมัครก่อน จากนั้นเดือนมิ.ย.ที่วัคซีนเข้ามามาก็จะเริ่มเปิดบริการให้กับประชาชนทั่วไปและภาคเศรษฐกิจ เช่น พนักงานบริษัทเอกชนต่างๆ ที่ลงทะเบียนเข้ามา ซึ่งต้องมีความพร้อมให้มากที่สุด เพราะคาดว่าน่าจะมีประชาชนเข้ามาฉีดมากขึ้น การปรับปรุงเรื่องระบบต่างๆก็ต้องมีพร้อมสมบูรณ์

สถานที่ฉีดวัคซีน 25 แห่งของเอกชน ซึ่งมีความพร้อมทั้งบุคคลการด้านการแพทย์ สถานที่  บริษัทที่เป็นเจ้าของสถานที่ยังสนับสนุนและจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการบริการประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ ปรินเตอร์ ตู้แช่วัคซีน เครื่องสแกนบัตร เตียงสนามและอาหารและเครื่องดื่ม จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีน เพราะหากจะอาศัยโรงพยาบาลทั่วประเทศที่มีอยู่คงไม่สามารถรองรับได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวัคซีนเข้ามาจำนวนมากในเดือนมิ.ย.นี้