'ตลาดคริปโตฯเอเชีย'แหล่งทำเงินบ.ลงทุนโลก

บาเบล ไฟแนนซ์ สตาร์ทอัพให้บริการทางการเงินคริปโตเคอร์เรนซี มีฐานดำเนินงานอยู่ในฮ่องกง ระดมทุนรอบใหม่ได้ 40 ล้านดอลลาร์ถือเป็นการทำข้อตกลงคริปโตฯในเอเชียเป็นครั้งแรกของบริษัทเพื่อการลงทุนระดับโลก ที่ตอกย้ำให้เห็นว่านักลงทุนต้องการเข้าไปลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

การระดมทุนหลายครั้งที่ผ่านมา นำโดยไทเกอร์ โกลบอล แมเนจเมนท์ มีฐานดำเนินงานในนิวยอร์ก ,สึโคยา แคปิตัล ไชนา (Sequoia Capital China), ดรากอนฟลาย แคปิตัลในเครือสึโคยา ,เบอร์เทลสมานน์ กลุ่มบริษัทสื่อสัญชาติเยอรมนี ,บีเอไอ แคปิตัล หน่วยงานด้านการลงทุนเน้นภูมิภาคเอเชีย และซู แคปิตัล กองทุนเพื่อการลงทุนน้องใหม่ของโป๋วหยู แคปิตัล บริษัทเพื่อการลงทุนนอกตลาดสัญชาติจีน

บาเบล ซึ่งเน้นสร้างสินทรัพย์คริปโตฯมากกว่า อย่างเช่น บิทคอยน์และอีเธอร์เรียม ถือเป็นพอร์ทการลงทุนด้านคริปโตแห่งแรกในเอเชียสำหรับไทเกอร์ โกลบอล แมเนจเมนท์,บีเอไอ แคปิตัล และซู แคปิตัล โดย“เฟล็กซ์ หยาง” ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)บาเบล กล่าวว่า การระดมทุนรอบใหม่ที่บริษัททำไปมีเป้าหมายอยู่ที่การสร้างหุ้นส่วนจากภายนอกมากกว่าเน้นระดมเงินทุนที่จำเป็น

“จริงๆแล้วเราเป็นบริษัทที่มีกำไรมากและมีสภาพคล่องด้านกระแสเงินสดสูง แต่บรรดานักลงทุนเหล่านี้สามารถช่วยให้เรามีสายสัมพันธ์ที่กว้างไกลมากขึ้นและสร้างความน่าเชื่อถือที่จำเป็นสำหรับการเติบโตทางธุรกิจแก่เราได้”ซีอีโอบาเบล กล่าว

บาเบล ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2561 ให้บริการทางการเงินในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัลแก่ลูกค้าสถาบันจำนวนกว่า 500 แห่ง รวมถึงนักลงทุนที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทของตระกูลและนักลงทุนส่วนบุคคลที่มีสินทรัพย์สุทธิมูลค่าสูง รูปแบบการให้บริการประกอบด้วย การปล่อยกู้แบบคริปโตฯ ให้บริการไฟแนนซ์แบบคริปโตฯและการบริหารจัดการสินทรัพย์คริปโตฯ โดยผลกำไรส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากอัตราดอกเบี้ย

นับจนถึงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา บริษัทบาเบล ซึ่งมีอายุ3ปี มียอดชำระในปัจจุบันของเงินกู้คริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์เทียบกับช่วงปลายปี 2562 ที่มี 289 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในกลุ่มผู้เล่นรายใหญ่สุดในตลาดอนุพันธ์คริปโตฯโลก โดยปริมาณการเทรดรายเดือนในคริปโตเคอร์เรนซีอยู่ที่ 8,000 ล้านดอลลาร์ ประมาณ 80% ของลูกค้าที่มีฐานอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เมื่อไม่นานมานี้ บรรดาบริษัทเอเชียหลายแห่งเข้ามาลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี รวมถึง เน็กซอน(Nexon)ยักษ์ใหญ่วงการเกมของญี่ปุ่น ที่เข้าซื้อบิทคอยน์จำนวน 1,717 บิทคอยน์ในราคาหน่วยละ 58,226 ดอลลาร์ รวมมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ ด้วยความเชื่อมั่นว่าบิทคอยน์ให้ความมั่นคงและสภาพคล่องในระยะยาว

“โอเวน มาโฮนีย์”ประธานและซีอีโอบริษัท บอกว่า การซื้อบิทคอยน์ของบริษัท สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่มีวินัยในการปกป้องมูลค่าของผู้ถือหุ้น และเพื่อรักษาอำนาจการซื้อของสินทรัพย์เงินสดบริษัท ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันบริษัทเชื่อว่าบิทคอยน์ให้ความมั่นคงและสภาพคล่องในระยะยาว ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษามูลค่าเงินสดของบริษัทไว้สำหรับการลงทุนในอนาคต

มาโฮนีย์ กล่าวด้วยว่าบิทคอยน์เป็นรูปแบบหนึ่งของเงินสด ที่มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่าไว้ แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างก็ตาม

ขณะที่ราคาบิทคอยน์ คริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก ทะยาน 300% ในปี 2563 และพุ่งสูงสุดตลอดกาลราคาทะยานกว่า 63,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนเม.ย.ขณะที่บรรดานักลงทุนพากันเข้าลงทุนในตลาดเงินคริปโตฯนี้

แต่นักลงทุนชื่อดังบางคนอย่าง“วอร์เรน บัฟเฟตต์” กลับเห็นต่างเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี โดยบัฟเฟตต์ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า โดยพื้นฐานแล้ว คริปโตเคอร์เรนซีไม่มีค่าและเขาไม่ต้องการเป็นเจ้าของคริปโตเคอร์เรนซีใด ๆ

บัฟเฟตต์ ค่อนข้างมองคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมในแง่ลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบิทคอยน์ แม้ที่ผ่านมาบัฟเฟตต์ ได้ร่วมทานอาหารมื้อกลางวันกับผู้คนในวงการคริปโตฯอย่างเช่น จัสติน ซัน ซีอีโอของทรอน( TRON )รวมถึงผู้นำในวงการคริปโตฯหลายๆ คนแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจบัฟเฟตต์ให้มองบวกต่อคริปโตฯได้

กลับมาที่หยาง ซีอีโอบริษัทบาเบล กล่าวถึงเงินก้อนใหม่ที่ระดมทุนมาได้ว่า จะนำไปลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฏหมายเป็นหลัก รวมถึงดำเนินงานให้สอดคล้องกับระบบยุติธรรมในหลายประเทศ ทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ ยุโรปและสหรัฐ แต่ก็ยอมรับว่าแผนขยายตลาดของบาเบลอาจเผชิญอุปสรรคจากการดำเนินนโยบายด้านกฏระเบียบเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศต่างๆที่ยังไม่มีความชัดเจน

“ความไม่แน่นอนของกรอบงานด้านกฏระเบียบทั่วโลกเป็นความท้าทายใหญ่สุดของธุรกิจเรา แต่เราก็พร้อมจะปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆด้วยความเต็มใจ ด้วยเหตุนี้เราจึงจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อรับมือกับเรื่องนี้”หยาง กล่าว

บาเบล ตั้งเป้าที่จะเพิ่มพนักงานให้ได้ 100 คนภายในปลายปีนี้ โดยเน้นรับสมัครพนักงานที่มีประสบการณ์ด้านกฏระเบียบหรือกฏหมายคริปโตเคอร์เรนซี ด้านการเงิน และบริหารจัดการความเสี่ยง ทั้งยังมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์คริปโตที่มีความเป็นนวัตกรรมมากขึ้น

“เป้าหมายเราคือบริหารจัดการบิทคอยน์ให้ได้ 1 ล้านบิทคอยน์ และมั่่นใจว่าในท้ายที่สุดคริปโตเคอร์เรนซีจะกลายเป็นสินทรัพย์มีค่าที่เทียบได้กับทองคำและยิ่งนักลงทุนสถาบันเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดมากเท่าไหร่ ความผันผวนของตลาดคริปโตเคอร์เรนซียิ่งน้อย”หยาง กล่าว